แม้ Note 7 จะยกเลิก และตลาดไอทีโค้งท้ายฟื้นช้า แต่ “คอมเซเว่น” ยังโตต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญการตลาด และขยายสาขา

จากข้อมูลของสถาบันวิจัยหลายสำนักยังให้ภาพรวมตลาดไอทีในประเทศไทยเริ่มกลับมาเติบโตอย่างช้าๆ แล้ว แต่ด้วยปัจจัยเรื่องการหยุดขาย Samsung รุ่น Galaxy Note 7 และความไม่มั่นคงในประเทศ ก็ทำให้หลายบริษัทต้องจัดระเบียบธุรกิจกันใหม่ แต่นั่นไม่ใช่กับกลุ่มคอมเซเว่นที่สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด

sura
สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น

อัดแคมเปญ – ขยายสาขาปั้นยอดขาย

สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น ย้ำว่า ตอนนี้รายได้ไตรมาส 3 ของบริษัทปิดที่ 11,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการเติบโตเหนือภาพรวมตลาดที่ยังทรงๆ โดยการเติบโตนั้นมาจากการหาสินค้าที่มีส่วนต่างกำไรมาจำหน่ายภายในร้านมากขึ้น ประกอบกับยอดขายอุปกรณ์ Smartphone ทั้งกลุ่ม Apple และ Android ในทุกเซ็กเมนต์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ปกติไตรมาส 3 ของทุกปีจะเป็นช่วง Low Season ของตลาดไอทีก็ตาม

ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายหน้าร้านอย่างต่อเนื่อง เพื่ออุดช่องว่างในการจำหน่าย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด และห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ จากปัจจุบันที่บริษัทมีหน้าร้านใกล้เคียง 300 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วยร้านจำหน่ายสินค้า Apple ในชื่อ Studio 7 จำนวน 93 สาขา, ร้าน Banana ที่แบ่งเป็นร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และจำหน่ายทั้งสองอย่างจำนวน 167 สาขา และศูนย์ซ่อมบำรุงภายใต้ชื่อ iCare จำนวน 18 แห่ง ถือเป็นค้าปลีกที่มีสาขาที่บริหารด้วยตนเองมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

com77

หวังรัฐส่งมาตรการภาษีกระตุ้นกำลังซื้อ

“ปัจจัยภายนอกที่น่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้จับจ่ายช่วงโค้งสุดท้ายได้ คือนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เช่นการลดหย่อนภาษีเมื่อซื้อสินค้าถึงมูลค่าที่กำหนดเหมือนกับที่เคยทำในปีก่อน แต่จะให้เรารอรัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ คอมเซเว่นจึงเตรียมแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่นการวางจำหน่าย iPhone 7 ที่ทำโปรโมชั่นร่วมกับกลุ่มทรู รวมถึงการจัดกิจกรรมประจำเดือนตามหน้าร้านทุกสาขา เพื่อสร้างยอดขายในกลุ่มคอมพิวเตอร์ที่เป็นหนึ่งในรายได้หลักของบริษัทด้วย”

อย่างไรก็ตาม คอมเซเว่น ยังตั้งเป้าหมายรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ทำได้ 14,991.73 ล้านบาท รวมถึงคาดหวังกำไรสุทธิสูงที่สุดตั้งแต่ที่เคยดำเนินธุรกิจมา โดยปี 2558 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 268 ล้านบาท และก่อนหน้านี้บริษัทได้ Rebranding ทั้งร้าน iStudio ให้เป็นร้าน Studio 7 เพื่อความแตกต่างกับคู่แข่งรายอื่น นอกจากนี้ยังปรับร้าน Banana IT และ Banana Mobile ให้เป็นร้านเดียวกันภายใต้ชื่อ Banana เพราะต้องการสร้างแบรนด์นี้ให้แข็งแกร่ง และสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีเอาไว้ได้

สรุป

ถึงตอนนี้ผู้จำหน่ายสินค้าไอทีหลายรายคงเตรียมแผนธุรกิจสำหรับปี 2560 กันแล้ว เพราะปีนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าเสมอตัว ผ่านภาพรวมตลาดที่ยังไม่ฟื้น ส่วนปีหน้าคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในการทำตลาดของผู้ค้าแต่ละราย เช่นคอมเซเว่นเน้นตลาดในวงกว้าง, เจ.ไอ.บี. เน้นตลาดเกมมิ่ง และแอดไวซ์จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในต่างจังหวัด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา