ปลดคน ปรับโครงสร้างองค์กร สู้วิกฤต
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยทำโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออก ล่าสุด Coca-Cola ประกาศปลดพนักงาน 2,200 คนทั่วโลก โดยในจำนวนนี้เป็นพนักงานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,200 คน (Coca-Cola มีพนักงานทั้งหมด 86,000 คนทั่วโลก)
ชัดเจนว่า วิกฤตโควิดส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจของ Coca-Cola เพราะการสั่งปิดบาร์ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และสนามกีฬาจากมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้ยอดขายเครื่องดื่มของ Coca-Cola ตกต่ำในทุกพื้นที่ทั่วโลก
เมื่อเปิดงบการเงินของ Coca-Cola ในไตรมาสที่ผ่านมา (Q3/2020) พบว่า
- ยอดขายทั่วโลกลดต่ำลง 4% โดยเฉพาะในฝั่งเอเชียที่มมาตรการล็อคดาวน์เคร่งครัด อย่างเช่น อินเดียและญี่ปุ่น
- รายได้ 8.65 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 9%
- กำไร 1.74 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 1 ใน 3 จากเดิม
การปลดพนักงานในครั้งนี้ Coca-Cola บอกว่าเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรที่สำคัญ เพราะจะทำให้องค์กรทำงานเร็วขึ้น ตัดสินใจเร็วขึ้น และที่สำคัญอย่างมากคือ จะช่วยลดต้นทุนของบริษัทได้ประมาณ 350-550 ล้านดอลลาร์ต่อปี
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ Coca-Cola ได้ปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการยกเลิกการผลิตเครื่องดื่มในเครือกว่า 200 แบรนด์ที่ไม่มีโอกาสเติบโต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา