“ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” คือหนึ่งในร้าน Street Food ที่คุ้นเคยกันมานาน ซึ่งปัจจุบันก็มีกว่า 4,000 สาขาทั่วไทย แถมเริ่มขยายธุรกิจไปต่างประเทศแล้วด้วย แต่เป้าหมายในอนาคตของรถเข็นบะหมี่รายนี้น่าจะไปไกลกว่าที่หลายคนคิด
ประสบการณ์กว่า 20 ปี กับการขับเคลื่อนธุรกิจ
ถึงตอนนี้แบรนด์ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ก็มีอายุกว่า 20 ปีแล้ว หากนับตั้งแต่เริ่มพัฒนาสูตรเมื่อปี 2535 แต่ถึงระยะเวลาผ่านไป ผู้บริโภคก็ยังจดจำแบรนด์รถเข็นขายบะหมี่รายนี้ได้อยู่ และจากจุดแข็งเรื่องนี้ ประกอบกับตัวรสชาติ ทำให้การขยายตัวของเฟรนไชส์รถเข็นขายบะหมี่เกี๊ยวเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนสิ้นปีน่าจะมีกว่า 4,000 สาขา
พันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว จำกัด เล่าให้ฟังว่า 2561 คืออีกปีที่ดี เพราะสามารถขยายสาขาเพิ่มอีก 700 แห่ง และยอดขายกลับมาเติบโตเป็นเลขสองหลักอีกครั้ง หลังปี 2560 แทบไม่เติบโตจากปีก่อนหน้านั้น อาจเพราะเรื่องปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ
“นอกจากเรื่องยอดขายดีๆ ปีนี้ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวได้วางรากฐานเพื่อพลิกโฉมบริษัทให้ตามยุคดิจิทัล และการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบการรับชำระเงินด้วย QR Code ที่ชำระได้ทั้งตัดผ่านบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิต รวมถึงคิดค้นสินค้าที่จำหน่ายผ่านช่องทาง Online เน้นเจาะกลุ่มครัวเรือนขนาดเล็ก”
เร่งเครื่องขยายหน้าร้านสู่ 10,000 แห่งใน 5-10 ปี
แต่ถึงจะเร่งหาช่องทางใหม่ๆ ในการจำหน่ายสินค้า รวมถึงแต่งตัวบุกตลาดต่างประเทศทั้งลาว, พม่า และกัมพูชารวมกว่า 70 สาขา แต่กลยุทธ์หลักๆ ของชายสี่บะหมี่เกี๊ยวก็ยังเป็นการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั้งประเทศไทย โดยเป้าหมายสูงสุดคือมีสาขา 8,000-10,000 แห่งภายใน 5-10 ปีข้างหน้า
“ผมอยากให้ลูกค้าเห็นร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยวไม่ต่างกับการเห็นร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นที่ปัจจุบันมีตั้งแต่ปากซอย, กลางซอย ยันท้ายซอย เพราะในประเทศไทยยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เรายังขยายไปไม่ถึง ยิ่งแบรนด์เราแข็ง และทีมงานเทรนการขายก็ค่อนข้างเก่ง ทำให้ขยายไปตรงช่องว่างอย่างไรก็ยังมีคนซื้ออยู่ดี”
สำหรับการขยายสาขาในไทยนั้น “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จะเน้นที่การขายเฟรนไชส์ร้านบะหมี่รถเข็น และร้านอาหารรถเข็นอื่นๆ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีแผนทำร้าน Stand-alone เพื่อตั้งในปั๊มน้ำมันปตท. เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ด้วย
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2564
ขณะเดียวกันการเร่งขยายสาขา, การบุกต่างประเทศ รวมถึงผลิต และจำหน่ายสินค้าบริโภคในครัวเรือน เช่นซุปผงสำเร็จรูป ก็เพื่อเพิ่มมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันล้านบาท และรายไดั กับกำไรที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2564
“ผมอยากเอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะการขยายไลน์สินค้า และการบุกตลาดต่างประเทศเต็มตัวก็ต้องใช้ทุนอยู่ แต่ก็เชื่อว่า 4 เป้าหมายของเราคือ เป็นเจ้าแห่งเส้น, รถเข็นสากล, เป็นครัวของทุกบ้าน และอาหารของทุกคน ก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับรายได้ของ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” เมื่ออ้างอิงตามที่ยืนตามกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในปี 2560 จะอยู่ที่ 291 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17 ล้านบาท โดยถ้านับสาขาของธุรกิจรถเข็นขายอาหารนั้น “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จะเป็นรองร้านลูกชิ้นโอเด้ง และลูกชิ้นแชมป์อยู่
สรุป
เรียกว่าจากร้านรถเข็นธรรมดาๆ ผ่านมา 20 ปีเศษๆ ก็สามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ถือเป็นอีกแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของคนยุคก่อน และยุคปัจจุบันก็ว่าได้ ดังนั้นจึงน่าจับตาว่า “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จะเติบโตได้ยิ่งกว่านี้ และมีสาขาเทียบเท่าร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น-อีเลฟเว่นได้หรือไม่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา