ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ Chief Strategist ผลักดัน 214 นโยบาย ชัชชาติ เพื่อกรุงเทพที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

หลายคนได้เห็นหน้าตาทีมงานของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครคนที่ 17 กันไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่งในคนที่ออกสื่ออยู่บ่อยครั้ง และเป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ แห่ง เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่เข้าทำหน้าที่ Chief Strategist หนึ่งในทีมที่ปรึกษา ที่จะวางยุทธศาสตร์และผลักดันกว่า 214 นโยบายให้เป็นจริง

เริ่มต้นด้วย Zero-Based Budgeting เพื่อประโยชน์สูงสุดของ กทม.

หลังจาก ชัชชาติ เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.​อย่างเป็นทางการ ทุกคนก็เริ่มงานกันทันที สำหรับ ดร.ยุ้ย การประชุมนัดแรกเริ่มต้นที่ “Zero-Based Budgeting” หรือ งบประมาณฐานศูนย์ คือ การจัดสรรงบประมาณจากความจำเป็นของโครงการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างที่รู้กันจากข่าวที่เผยแพร่ว่างบประมาณของ กทม. เหลืออยู่ประมาณ 94 ล้านบาทในปีนี้ ดังนั้นการใช้งบต้องให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด ได้ผลลัพธ์มากที่สุด เกิดประโยชน์สูงที่สุด

ดร.ยุ้ย บอกว่า เรื่องบางเรื่อง งานบางอย่างที่มีและดีอยู่แล้วไม่ต้องคิดใหม่ แค่ลงรายละเอียดให้ลึก ลงมือทำให้จริงจัง Apply ใช้ให้เหมาะกับโลกปัจจุบัน ปรับตัวให้เร็ว ให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี ผศ.ดร.วิลาสินี วงศ์แก้ว อาจารย์จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มาช่วยให้ความรู้และรายละเอียด

Zero-Based Budgeting เป็น 1 ใน 214 นโยบายหลักของผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ดังนั้นจึงเริ่มต้นนำไปใช้ได้ทันที เมื่องบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด แต่โครงการมีอยู่เป็นจำนวนมาก การวางแผนจึงสำคัญ

“อาจารย์ชัชชาติพูดประจำว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City แต่เราเป็น Smart Enough City หรือเป็นเมืองที่ฉลาดกำลังเหมาะเน้นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนเป็นหลัก เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เราอาจไม่ได้เป็น Zero-Based Budgeting 100% แต่เป็น Enough Zero-Based Budgeting”

ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 214 นโยบาย

ดร.ยุ้ย เล่าว่า ตั้งแต่ก่อนมีการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. อย่างเป็นทางการ แต่ไม่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างที่เห็นในข่าวว่า ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ที่ทันที เพื่อรับรู้และสัมผัสความต้องการของคนกรุงเทพโดยตรง 

ขณะเดียวกันได้มีการวางโครงสร้างการบริหารในการร่วมทีมของคณะทำงาน ในการบริหารกทม. เพื่อให้คณะทำงานจะได้ดำเนินงานในแต่ละส่วนทันที

ส่วนของที่ปรึกษายุทธศาสตร์ หรือ  Chief Strategist ต้องเน้นการผลักดัน 214 นโยบายที่ได้ให้ไว้กับประชาชนให้เป็นผลสำเร็จคู่ขนานไปพร้อมกับการบริหารจัดการด้านงบประมาณ มีทั้งการเพิ่มรายได้ให้กับ กทม. เพื่อนำมาดำเนินการ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของการบริหารงานเพื่อส่วนรวม ที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่คนกรุงเทพมหานครจะได้รับในทุกมิติ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ประสบการณ์อาจารย์มหาวิทยาลัย บริหารธุรกิจหมื่นล้าน ช่วยการทำงาน

ประสบการณ์ที่ผ่านมาของ ดร.ยุ้ย จบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อชั้นปริญญาโทด้านการเงินที่ University of California at Riverside และปริญญาโทและเอกด้านเศรษฐศาสตร์ โดยทุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลังจากนั้นจึงมาเป็นอาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้นความรู้ด้านทางการเงินและเศรษฐศาสตร์มาแบบจัดเต็ม มีความเข้าใจในเชิงหลักการและวิชาการต่างๆ เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือ สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง เห็นได้จากการทำหน้าที่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับหมื่นล้าน และนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในชื่อ SENA เป็นอีกหนึ่งแบรนด์อสังหาฯ ที่ได้รับความสนใจและมีแนวทางที่น่าสนใจมาตลอด เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ภายในโครงการ ฯลฯ 

เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ความรู้ความสามารถทั้งด้านการบริหารงานทั่วไป การบริหารด้านการเงิน การและถ่ายทอดความรู้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญคือ ช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปิดแคมป์คนงานและใช้มาตรการควบคุมทางสาธารณสุข ซึ่งเสนาผ่านมาได้ด้วยดี และยังมีแผนการช่วยเหลือให้กับคนงาน ผู้รับเหมา ประชาชนที่อยู่อาศัยรอบแคมป์คนงาน 

กล่าวได้ว่า การช่วยเหลือประชาชนจากโควิด เป็นอีกจุดสำคัญให้ ดร.ยุ้ย เข้ามาเป็นทีมงานชัชชาติ เพราะอยากเข้ามาป้องกันและจัดการปัญหาตั้งแต่เชิงโครงสร้าง และเป็นที่มาของ 214 นโยายที่จะทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน เชื่อว่าทุกปัญหาสามารถแก้ได้ในทิศทางที่ดีขึ้น  เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพได้ดียิ่งขึ้น                                    

สรุป: ประสานเพื่อการพัฒนาสู่ กรุงเทพเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

สำหรับคนที่ยังอาจจะสงสัยว่า การมีผู้บริหารบริษัทเอกชนเข้ามาร่วมทีมที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ เป็นเรื่องแปลกหรือไม่ ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะจากเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน นักวิชาการ นักการเมืองจากพรรคอื่นค่ายอื่น เจ้าของธุรกิจ ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า หรือนักเรียนนักศึกษา ล้วนเป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองได้

ยิ่งดีด้วยว่า ทำให้ได้คนที่มีประสบการณ์ตรง มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ และสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด ซึ่งเห็นได้จากการที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน พยายามประสานคนมีความสามารถจากทุกทิศเข้ามาช่วยกันทำงาน และ ดร.ยุ้ย คือหนึ่งในนั้น

แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ผลงานให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา