เซ็นทรัล รีเทลเผยยอดขายออนไลน์เติบโต 350% พร้อมกระตุ้นตลาด SALE ทุกเดือนยาวถึงสิ้นปี

เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เผยภาพรวมพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตสูง พร้อมทั้งจัดมหกรรม Central Retail Mega Sale ลดราคาทั้งหน้าร้านและเว็บไซต์ หวังกระตุ้นการใช้จ่ายให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของการเข้าสู่ยุค e-Commerce อย่างเต็มตัว ทำให้การใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของชาวไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก

แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ตลาด e-Commerce ไทย ก็ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าแฟชัน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับและนาฬิกา เครื่องสำอาง อุปกรณ์เทคโนโลยี อุปกรณ์กีฬา และสินค้าประเภทซุปเปอร์มาเก็ต

ส่วนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ยอดขายสินค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ของเซ็นทรัล รีเทล เพิ่มมากขึ้นทุกกลุ่ม ทำให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 350% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในปีที่แล้วมีผู้ใช้งานซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของเซ็นทรัล ประมาณ 1 ล้านราย แต่ในปีนี้คาดตัวเลขผู้ใช้งานจะเติบโตขึ้นเป็น 3 ล้านราย

มหกรรมลดราคาจาก 9.9 ถึง 12.12 Double Mega Sale

โดยในปีนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้จัดกิจกรรมลดราคา Central Retail Mega Sale เป็นการลดราคาทั้งที่หน้าร้าน และเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อหวังกระตุ้นการใช้จ่าย โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่กิจกรรม 9.9 Double Mega Sale ในเดือนกันยายน, 10.10 ในเดือนตุลาคม, 11.11 ในเดือนพฤศจิกายน และ 12.12 ในเดือนธันวาคม ด้วยสินค้ากว่า 1 ล้านรายการ ลดราคาทั้งที่หน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ เป็นการสร้างประสบการณ์ O2O คือออนไลน์สู่ออฟไลน์

โดย นิโคโล กาลันเต้ เล่าว่า กิจกรรมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การลดราคา แต่เป็นการช่วยเหลือครอบครัวคนไทย ให้ประหยัดค่าค่าใช้จ่าย และลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนลงได้

ด้านกำลังซื้อของคนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ลดลง แม้ตอนนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่กลับไปสู่ระดับเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเรื่องผลประกอบการมองว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ไตรมาส ส่วนการฟื้นตัวมองว่ามีความแตกต่างกันไปในหลายพื้นที่ พื้นที่ๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าพื้นที่อื่นๆ ที่มีคนไทยเป็นกลุ่มลูกค้า ที่จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วกว่า

แม้ว่าตลาด e-Commerce ของเซ็นทรัล รีเทล จะมียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 350% ด้วยสัดส่วนยอดขาย 10% จากที่เคยวางแผนว่าสัดส่วนยอดขายออนไลน์จะคิดเป็น 15% ของยอดขายทั้งหมดของเซ็นทรัล รีเทล ภายในเวลา 3-5 ปี แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในขณะนี้สัดส่วนยอดขายออนไลน์ใกล้จะถึง 15% แล้ว

ยังคงลงทุนด้วยความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม นิโคโล กาลันเต้ เล่าว่า เมื่อร้านต่างๆ เปิด คนก็ยังคงอยากกลับเข้ามาที่หน้าร้าน คนยังอยากกลับมาเดินห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน จะต้องมีการระมัดระวังในการขยายธุรกิจ โดยจะลงทุนเปิดร้าน หรือสาขาเพิ่มหากเห็นศักยภาพ แม้ในปีนี้จะยังไม่มีแผนก็ตาม เพราะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น แต่จะยังคงลงทุนในกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เช่น การลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงโรบินสันไลฟ์สไตล์ ที่มีลักษณะเป็นคอมมูนิตี้มอล และไทวัสดุ ก็ยังคงมีการลงทุนอยู่

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศของเซ็นทรัล รีเทล หลักๆ จะแบ่งเป็นในประเทศเวียดนาม และยุโรป ซึ่งการลงทุนในเวียดนามคาดว่าจะยังคงลงทุนเหมือนเดิม เพราะตลาดมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จำนวนร้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนต้องปิดร้านมีน้อย ส่วนตลาดในยุโรป คงต้องชะลอการลงทุน แต่ยังคงมีการดำเนินการปรับปรุงห้างรีนาเชนเต (Rinascente) ในประเทศอิตาลีเหมือนเดิม

สรุป

กลยุทธ์การจัดกิจกรรมลดราคาตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงธันวาคมปีนี้ของเซ็นทรัล รีเทล นับว่ามีความน่าสนใจ เพราะเป็นการใช้จุดแข็งของเซ็นทรัล ทั้งหน้าร้าน และการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกัน เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของคนไทย ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา