คาสตรอล ประเทศไทย กางแผนธุรกิจประจำปี 2024 เริ่มด้วยขยายเครือข่ายศูนย์บริการอิสระแตะ 6,000 แห่ง จาก 5,600 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมทำตลาดของเหลวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มรายได้ หลังส่งมอบให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในไทย 3 รายใหญ่ ทั้งปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่หวังตีตลาดผู้หญิง และคนรุ่นใหม่เพิ่ม
คาสตรอล ประเทศไทย เดินหน้าขยายศูนย์บริการ
สาธิต เลิศสุขวิบูลย์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในปี 2024 คาสตรอล ประเทศไทย จะเดินหน้าขยายเครือข่ายศูนย์บริการอิสระเพิ่มเป็น 6,000 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 5,600 แห่งทั่วประเทศไทย ผ่านการทำตลาดภายใต้แบรนด์ Castrol Auto Service และ Bike Point
“ศูนย์บริการคาสตรอลจะปรับเป็นภาพลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมเจ้าของศูนย์ และช่างที่มีความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบำรุงรักษา และการบริการที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานของคาสตรอลอย่างไว้วางใจ และสะดวกมากขึ้น”
คาสตรอล เป็นหนึ่งในแบรนด์ของกลุ่มบีพีจากประเทศอังกฤษ และยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซ โดยทางกลุ่มมีการทำตลาดในประเทศไทยมา 51 ปี และมองประเทศไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่กลยุทธ์ เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญในภูมิภาค และมีการใช้น้ำมันหล่อลื่นกว่า 600 ล้านลิตร/ปี
เร่งทำตลาดของเหลวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน คาสตรอล ประเทศไทย ยังเตรียมวางแผนทำตลาดสินค้าของเหลวที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Castrol ON เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคต หลังความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย และทั่วโลกมีมากขึ้น โดยสินค้ามีทั้งน้ำมันสำหรับระบบส่งกำลัง และน้ำยาหล่อเย็น เป็นต้น
“ปัจจุบันเราส่งมอบสินค้าของเหลวที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าให้กับ 3 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV: Battery Electric Vehicle) ในประเทศไทย และในระบบดับโลก แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 3 ใน 4 ใช้สินค้าของเหลวของเราเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์ต่าง ๆ กับ คาสตรอล”
อย่างไรก็ตาม คาสตรอล ประเทศไทย ยังเน้นทำตลาดสินค้าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ในประเทศไทยเป็นหลัก โดยตัวสินค้าจะรองรับทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน, เครื่องยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน มีเครือข่ายศูนย์บริการอิสระของ คาสตรอล ประเทศไทย เป็นช่องทางจำหน่ายหลัก
ปรับภาพลักษณ์แบรนด์เจาะคนรุ่นใหม่ และผู้หญิง
สาธิต เสริมว่า ในปี 2024 คาสตรอล ประเทศไทย จะปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ และผู้หญิงได้มากขึ้น โดยภาพลักษณ์ใหม่นี้จะทยอยปรับเปลี่ยนตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2024 เป็นต้นไป มีสินค้า และเครือข่ายศูนย์บริการที่จะทำตลาดภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่
ขณะเดียวกัน คาสตรอล ประเทศไทย ยังเปิดตัว หมาก – ปริญ สุภารัตน์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อช่วยสื่อสาร และสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวได้ดีขึ้น และจะใช้ช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันแบรนด์ธุรกิจน้ำมัน และก๊าซ โดยเฉพาะกลุ่มที่จำหน่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์สันดาปภายในเริ่มมาทำตลาดของเหลวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ายังมีความจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่นในส่วนต่าง ๆ เพียงแต่น้อยกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในเท่านั้น
อ้างอิง // Castrol
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา