แบรนด์รถหรูแดนมะกัน Cadillac มียอดขายในจีนแซงประเทศต้นกำเนิด เหตุเศรษฐีวัยกระเตาะเพิ่มจำนวน

ประเทศไทยอาจไม่คุ้นกับแบรนด์รถหรู Cadillac มากเท่าไรนัก แต่ที่สหรัฐอเมริกาคงรู้จักเป็นอย่างดี เพราะก่อตั้งมากกว่า 100 ปี ซึ่งตอนนี้ตลาดหลักของทางแบรนด์อาจไม่ใช่ในประเทศอีกต่อไป หลังยอดซื้อในจีนโตแซงแล้ว

2018 Cadillac ATS Coupe // ภาพ Cadillac

ประวัติศาสตร์บทใหม่ของแบรนด์รถหรูมะกัน

ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าแบรนด์ Cadillac ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2445 ในสหรัฐอเมริกา ถึงปัจจุบันก็มีอายุ 115 ปีแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เข้ามาอยู่ในกลุ่ม General Motors หรือ GM ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ของที่นั่น พร้อมถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ระดับ Luxury หรือรถยนต์หรู และยึดตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้มานาน

แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์เองก็ถูกแบรนด์จากเยอรมันทั้ง BMW, Mercedes-Benz และ Audi รวมถึง Lexus จากญี่ปุ่นแย่งส่วนแบ่งจนไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งของตลาดอีกต่อไป ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็มาจากความเชยในสายตาผู้บริโภค และการไม่ปรับตัวตามความต้องการของตลาด เช่นไม่ผลิตรถยนต์แบบ SUV มาตอบโจทย์ความนิยมช่วงนี้

จึงไม่แปลกที่ยอดขายในสหรัฐฯ จะตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดลดลง 8% ปิดที่ 156,440 คันในปี 2560 จนกลุ่ม GM เริ่มเพิกเฉยต่อการทำตลาดแบรนด์นี้แล้ว แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อยอดขายในประเทศจีนกลับเติบโตถึง 51% ปิดที่ 175,489 คัน และช่วยเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ในยอดขายระดับโลกที่เติบโต 15.5% ด้วย

Cadillac ในสมัยก่อน // ภาพ pixabay.com

เศรษฐีจีนมองว่าเท่ และคุ้นชินกว่าแบรนด์อื่น

สำหรับการทำตลาดในประเทศจีนของ Cadillac นั้นเริ่มอย่างจริงจังมาเพียง 10 ปีเท่านั้น แต่ถ้านับในมุมของ GM นั้นจริงจังมานานแล้ว เช่นการส่งแบรนด์รถยนต์ Buick ลงมาทำตลาด พร้อมผลิตแบรนด์ท้องถิ่นว่า Baojun จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และทำให้กลุ่ม GM ส่งมอบรถยนต์ในประเทศจีนมากกว่าที่สหรัฐฯ มาระยะหนึ่งแล้ว

ขณะเดียวกันการเติบโตของ Cadillac ในประเทศจีนนั้นก็มาจากเศรษฐีหน้าใหม่ที่ส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาวเพิ่มจำนวนขึ้นมาก และคนกลุ่มนี้ต้องการครอบครองอะไรที่หรูหรา และมีความแตกต่างจากแบรนด์เยอรมันอื่นๆ ซึ่ง Cadillac ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ ประกอบกับความคุ้นชินในการใช้งานรถยนต์ของกลุ่ม GM มาก่อนหน้านี้ด้วย

และหากนับย้อนหลังไป 5 ปี ถึงตอนนี้ยอดขายของ Cadillac ในประเทศจีนก็เติบโตถึง 3 เท่าตัว และมีส่วนให้กลุ่ม GM เริ่มกลับมามองแบรนด์รถยนต์หรูเก่าแก่นี้อีกครั้ง เพื่อทำตลาดในสหรัฐ รวมถึงตลาดโลกให้เข้มข้นยิ่งขึ้น รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรับกับกระแสอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังวิ่งไปในทิศทางนี้เช่นกัน

สรุป

ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของแบรนด์ Cadillac เพราะก่อนหน้านี้แทบจะหายหน้าหายตาไปเลย หลังเจอแบรนด์จากเยอรมันตีจนไม่มีที่ยืน แต่เมื่อตลาดเอเชียเริ่มเติบโตอย่างชัดเจน โอกาสที่จะเห็นแบรนด์ดังกล่าวกลับมาทำตลาดอย่างจริงจัง และอาจมีบริษัทนำเข้ารถยนต์ในประเทศไทยตัดสินใจนำรถยนต์แบรนด์นี้เข้ามาจำหน่ายในไทยก็ได้

อ้างอิง // The Wall Street Journal

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา