คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการเพื่อที่จะช่วยด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติให้ประชาชนยื่นภาษีเงินได้ถึงเดือนมิถุนายน เพื่อที่จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้มีการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เช่น การสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก รวมไปถึงและมาตรการผ่อนปรนทางภาษีในปีนี้ เช่น การยื่นภาษีเงินได้ยืดไปถึงเดือนมิถุนายน เพื่อที่จะให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจได้
- Citi มองกรณีแย่สุดนักท่องเที่ยวจีนหายไปจากไทยถึง 21.8% หลังไวรัสโคโรนาระบาด
- Goldman Sachs และ Bank of America ลดเป้า GDP ไทยปีนี้ กังวลไวรัสโคโรนา ภัยแล้ง
- โบรกเกอร์ไทย-ต่างชาติ กังวล “งบประมาณปี 63” ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อ GDP และหุ้นไทย
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นส่วนสำคัญของ GDP ไทย เพราะในปี 2018 นั้นสัดส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต่อ GDP สูงถึง 11.5% ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่มีปริมาณ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดนั้นมีสัดส่วนคิดประมาณ 3.2% ของ GDP ไทย
ล่าสุดเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจได้รายงานถึงมาตรการดังกล่าวที่อนุมัติออกมาแล้ว ได้แก่
มาตรการทางการเงินประกอบไปด้วย
- โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
- มาตรการขยายเวลาชำระหนี้และค่าธรรมเนียม เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการ
ขณะที่มาตรการทางด้านภาษี ได้แก่
- มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
- มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงกิจการโรงแรม
- การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จนถึงเดือนมิถุนายน
- การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร
มุมมองของรัฐบาลได้มองว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยในขณะนี้ที่กำลังได้รับผลจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไม่สามารถเดินทางจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น เช่น เกิดการจ้างงาน นอกจากนี้มาตรการด้านภาษียังทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้นด้วย
ที่มา – เว็บไซต์ผู้จัดการ, เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา