โบอิ้งได้จ่ายเงินจ่ายค่าปรับและเงินชดเชยรวมกันราวๆ 75,000 ล้านบาท ให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เพื่อยอมความคดีเครื่องบินโดยสารรุ่น 737 MAX ตก หลังจากบริษัทได้โดนข้อกล่าวหาในเรื่องสมคบคิดเพื่อหลอกลวงทางการสหรัฐในการสอบสวนคดี
Boeing ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐ ได้จ่ายค่าปรับรวมถึงค่าชดเชยต่างๆ ให้แก่ผู้เสียหายรวมเป็นเงินกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 75,000 ล้านบาท เพื่อยอมความกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ หลังจากที่เครื่องบินที่บริษัทผลิต รุ่น 737 MAX ตกในเวลาไล่เลี่ยกันในช่วงระยะเวลา 5 เดือน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 346 ราย นอกจากนี้ยังสร้างผลกระทบต่อสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเนื่องจากไม่สามารถนำเครื่องบินรุ่นนี้ขึ้นบินได้
สำหรับข้อหาที่ Boeing โดนนั้นได้แก่สมคบคิดหลอกลวงทางการสหรัฐ โดยผู้ผลิตเครื่องบินรายนี้ได้ยื้อเวลายาวนานถึง 6 เดือนในเรื่องการสอบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินสายการบิน Lion Air และ Ethiopian Airlines โดยสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ FAA
เม็ดเงิน 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐที่ Boeing ต้องจ่ายนั้นประกอบไปด้วย ค่าปรับคดีอาญา 243.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าชดเชยให้กับสายการบินต่างๆ ทั่วโลกอีก 1,770 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
เหตุเครื่องบินตกของ 2 สายการบิน ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของประเทศต่างๆ ได้ถูกสั่งห้ามเครื่องบินรุ่นนี้ห้ามขึ้นบินด้วยเหตุผลความปลอดภัยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 เป็นต้นมา และที่ผ่านมา Boeing เองก็ได้เร่งแก้ไขระบบซอฟต์แวร์ รวมถึงระบบ MCAS สำหรับวัดองศาของเครื่องบินที่เป็นปัญหา รวมถึงดำเนินการเรื่องการฝึกอบรมนักบินของสายการบินต่างๆ
เครื่องบินรุ่น 737 MAX นั้นเริ่มมีการผลิตในปี 2011 เพื่อที่จะแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Airbus โดยจุดเด่นนั้นประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง บรรจุผู้โดยสารมากกว่ารุ่น 737 NG นอกจากนี้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวยังเป็นรุ่นที่บริษัทคาดหวังว่าจะเป็นตัวผลิตกระแสเงินสดให้กับบริษัท จนมาเกิดเหตุการณ์เครื่องบินรุ่นดังกล่าวตก และทำให้เครื่องบินรุ่นนี้สร้างความเสียหายให้กับบริษัทอย่างมากจน
นอกจากนี้กรณีของ Boeing ยังทำให้สภาของสหรัฐเตรียมยกเครื่องกระบวนการขอใบรับรองเครื่องบินรุ่นใหม่ของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นในภายหลังด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา