Bob Iger ซีอีโอ Disney บอก ตอนนี้เรากำลังหลงทาง การทำงานปริมาณมากๆ อาจสร้างผลลบมากกว่างานคุณภาพเสียอีก
เจ้าอาณาจักรหนังแห่ง Disney บอก หลังจากที่เค้าเพิ่งจะหวนคืนบัลลังก์ซีอีโอเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา โลกต่างก็รู้กันดีว่าหนังจากค่ายดิสนีย์ดรอปไปมากเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ การกลับมาของเขาเกิดขึ้นหลังค่ายดิสนีย์มีผลประกอบการแย่ลงเรื่อยๆ ขาดทุนเรื่อยๆ จนทำให้ในที่สุดเขาก็ต้องกลับมาฟื้นฟูด้วยตำแหน่งเดิมที่ฝังตัวยาวนานสิบกว่าปี
ครั้งนี้เขาได้กล่าวไว้ขณะที่มีการรายงานผลประกอบการ แม้ว่าเขาจะย้ำเตือนนักลงทุนไว้แล้วว่านี่ไม่ใช่ข่าวร้ายทั้งหมด มันยังมีหนังอยู่ 4 เรื่องจาก 10 อันดับแรกของปีที่ผ่านมา ซึ่งก็รวมเรื่อง Avatar: The Way of Water ด้วย เขาบอกว่าเขาได้ดูผลงานโดยรวมที่ผ่านมา ซึ่งโควิดระบาดนั้นถือว่าเป็นความท้าทายด้านความสร้างสรรค์สำหรับทุกคน รวมทั้งดิสนีย์เองด้วย
ในช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้น ทุกคนก็พร้อมจะทุ่มทุกสรรพกำลังที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้สถานการณ์มันดีขึ้น ซึ่งตัว Iger เองก็รู้สึกมาตลอดว่า การทำงานโดยเน้นปริมาณนั้น มันสร้างผลกระทบเชิงลบจริงๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพของงาน เหล่านี้ทำให้เขาคิดว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เรากำลังเสียสมาธิกันอยู่
อย่างไรก็ดี การแข่งขันในการทำหนังของทุกค่ายนั้นกำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า Disney จะขาดทุนอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีแรงผลิตหนังระดับตำนานได้อยู่ แม้ Iger จะไม่พูดถึง Marvels เลยก็ตาม แต่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญตอนนี้ก็คือคุณภาพของงาน ไม่ใช่ปริมาณอีกต่อไป อย่างไรก็ดี เขายังมองโลกในแง่ดีและยังมีความหวังอยู่ เขายังคาดหวังกับหนังอนิเมชันเรื่องใหม่ เรื่อง Wish ที่กำลังเตรียมฉายในโรงภาพยนตร์ในอเมริกา และยังเป็นหนึ่งในโปรเจคหนังที่ฉลองครบรอบ 100 ปีของค่ายดิสนีย์ด้วย
Iger บอกว่า เขารู้สึกดีกับทิศทางที่เรากำลัมุ่งไป แต่ก็ยังรู้สึกว่าในเชิงคุณภาพนั้นยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตัวเองได้ตั้งไว้ อาจกล่าวได้ว่าต่อไปอาจเห็นปริมาณหนังดิสนีย์น้อยลง แต่เน้นคุณภาพมากขึ้น
ที่มา – Hollywood
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา