ตลาดรถหรูยังไปได้ BMW เชื่อแรงซื้อ Comeback โหม 20 Lineups ปั๊มยอดขายโตกว่าตลาด

หลายคนอาจมองว่าตลาดรถยนต์หรูอาจไม่ถูกกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจ เพราะคนที่ซื้อรถกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อด้วยดีไซน์ และสมรรถนะ แต่จริงๆ แล้วตลาดรถยนต์หรูในปี 2559 ลดลงถึง 9% เมื่อเทียบกับปี 2558

สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

รถหรูเหลือ 2 หมื่นคัน หดตัวครั้งแรกในรอบ 9 ปี

ปี 2559 ถือเป็นปีที่ตลาดรถยนต์มีปัญหาอีกปี เพราะแรงกระเพื่อมจากโครงการรถคันแรกทำให้การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 4% เหลือ 7.68 แสนคัน ถือเป็นการลดลงเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยเฉพาะกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลก็ลดลง 8.5% ดังนั้นคงไม่แปลกที่ตลาดรถยนต์หรูจะปรับตัวลดลง 9% เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยจำหน่ายในตลาดราว 20,000 คัน จากปี 2558 จำหน่ายอยู่ราว 22,000 คัน แต่สัญญาณการเติบโตของการจำหน่ายรถยนต์หรูอาจกลับมาอีกครั้งก็ได้ หลังจากเดือนธ.ค. มียอดสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น

สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มองว่า ตลาดรถยนต์หรูในปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจากบริษัท และแบรนด์อื่นๆ เริ่มนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามา พร้อมกับจัดแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รถยนต์หรูรุ่นที่ประกอบในประเทศก็ทำให้ผู้ซื้อหน้าใหม่สามารถเข้าถึงรถยนต์หรูได้เช่นกัน โดย BMW เองปีนี้จะเน้นที่การวางภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้ซื้อมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสการจำหน่าย เช่นการลงทุนขยายดีลเลอร์ และศูนย์บริการให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ เช่นล่าสุดที่จังหวัดภูเก็ต

BMW 530i M Sport

20 Lineups ปั๊มยอดขายโตเหนือตลาดปีนี้

“ตอนนี้ BMW ยังไม่สามารถบอกได้ว่าตลาดรถยนต์หรูปีนี้จะเติบโตแค่ไหน แต่ด้วยบริษัทวาง Lineup สินค้าใหม่ไว้ทั้งรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์กว่า 20 รุ่น เพื่อสร้างยอดขายในปีนี้ให้ได้มากกว่าการเติบโตของตลาด ที่สำคัญในเดือนม.ค. ก็มีสัญญาณดีเข้ามา เพราะบริษัทสามารถจำหน่ายรถยนต์ BMW และ Mini ได้ 745 คัน มากกว่าปี 2558 ถึง 22% และส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ได้ 110 คันภายในเดือนเดียวอีกด้วย จน BMW Motorrad ในไทยสามารถทำยอดขายได้เติบโตเร็วที่สุดเป็น 3 อันดับแรกของโลก”

สำหรับยอดขายของ BMW ในประเทศไทยปี 2559 ในฝั่งรถยนต์ทำได้ทั้งหมด 7,923 คัน แบ่งเป็นแบรนด์ BMW จำนวน 7,000 คัน และ Mini จำนวน 923 คัน ส่วนฝั่งมอเตอร์ไซค์ทำได้ทั้งหมด 1,819 คัน โดยการจำหน่ายได้จำนวนขนาดนี้ มาจากปัจจัยเช่น มีรุ่น Plug-in Hybrid ประกอบในประเทศไทย ทำให้ผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีใหม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงฝั่งสินค้า Bigbike ก็เติบโตราว 7% คิดเป็นจำนวนการจดทะเบียนทั้งตลาดที่ 18,500 คัน ซึ่ง BMW มีรุ่นประกอบในประเทศไทย ทำให้ผู้สนใจเข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน

R nineT Racer

ส่ง Series 5 ตัวใหม่ เสริมแกร่ง Core Model

อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดปีนี้ทาง BMW ได้เปิดตัวรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์รวม 5 รุ่นใหม่ประกอบด้วย Series 5 ตัวใหม่ 2 รุ่นคือ 530i กับ 520d ราคา 4,399,000 บาท กับ 3,899,000 บาท ตามลำดับ, Mini รุ่น Countryman ตัวใหม่ ยังไม่เปิดราคา กับ Clubman พร้อมชุดแต่ง JCW ราคา 3,588,000 บาท และมอเตอร์ไซค์ตระกูล R nineT จำนวน 2 รุ่นคือ Pure กับ Racer ยังไม่เปิดราคาทั้งคู่ ซึ่งจากทั้งหมดนี้ Series 5 น่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะถือเป็น Core Model ในการทำตลาดของบริษัท

ในทางกลับกัน Series 5 ที่เตรียมจำหน่ายยังไม่มีรุ่นประกอบในไทย ทำให้ผู้ที่ต้องการรุ่นราคาที่ต่ำกว่านี้อาจต้องรอถึงช่วงปลายปี แต่รายละเอียด และประสิทธิภาพอาจไม่เหมือนกับรุ่นที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่าย รวมถึง Mini รุ่น Countryman ตัวใหม่ก็ยังไม่มีแผนที่จะประกอบในประเทศไทยเช่นเดียวกัน ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศนั้นยังเดินหน้าไปด้วยดี โดยเฉพาะในตลาดประเทศจีนที่มีความต้องการ BMW รุ่น X3 และ X5 ค่อนข่างสูง ทำให้โรงงานที่ระยองสามารถส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายทั่วโลกได้ 10,000 คัน และมอเตอร์ไซค์อีก 2,000 คัน

Mini Countryman รุ่นใหม่

สรุป

BMW ยังเป็นแบรนด์รถในฝันของใครหลายคน และยิ่งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา โอกาสที่ชนชั้นกลางที่เริ่มมีกำลังซื้อจะหันไปจับจ่ายกลุ่มรถยนต์หรูก็มีสูง จากปีก่อนที่อาจจะมีแค่คนระดับ Elite เท่านั้นที่ตัดสินใจซื้อ และส่วนตัวเชื่อว่า Series 5 จะทำตลาดได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน แม้ตอนนี้ยังมีเฉพาะรถนำเข้ามาจำหน่ายก็ตาม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา