อเมริกามี Amazon Go ร้านขายของอัตโนมัติ จีนก็มี Bingobox ร้านขายของอัตโนมัติเหมือนกัน

หลังจากข่าว Amazon ซื้อกิจการ Whole Foods Market เพื่อก้าวเข้ามารุกตลาดค้าปลีกออฟไลน์มากขึ้น และเริ่มทดลองเปิดให้บริการ Amazon Go ร้านขายของแบบอัตโนมัติ อ่านข่าวได้ที่นี่

ขณะที่ Bingobox สตาร์ทอัพในประเทศจีนได้พัฒนาร้านสะดวกซื้ออัตโนมัติ ผู้ซื้อสามารถเปิดประตูเข้าไปเลือกซื้อของด้วยตัวเองและจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟน หลังจากทดสอบมาประมาณ 2-3 เดือน ตอนนี้สาขาแรกเปิดให้บริการแล้วที่เซี่ยงไฮ้

ร้าน Bingobox
สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนเข้าร้าน

ตั้งแต่เข้าจนออกจากร้าน บริการด้วยตัวเอง

สำหรับผู้ซื้อ เริ่มต้นด้วยการลงทะเบียน QR Code เพื่อเปิดประตู ผ่านแอป WeChat ซึ่งใช้กันทั่วประเทศจีนอยู่แล้ว ภายในร้านแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่มีสินค้าให้เลือกซื้อหลายร้อยชิ้น รวมถึงอาหารสด ผู้ซื้อต้องบริการตนเอง โดยเลือกสินค้าและนำไปสแกนบาร์โค้ด จากนั้นจ่ายเงินด้วย WeChat หรือ Alipay ทำให้คนจีนแทบทุกคนพร้อมใช้งาน Bingobox ในทันที

เลือกสินค้าที่ต้องการมาสแกน และจ่ายเงินผ่าน WeChat หรือ Alipay
มีระบบตรวจสอบว่า นำสินค้าที่ไม่จ่ายเงินออกไปหรือไม่

ส่วนใครที่คิดจะขโมย ที่ทางออกของร้านจะมีกล้องตรวจจับว่า ผู้ซื้อนำสินค้าอะไรออกไปจากร้านบ้างโดยไม่จ่ายเงิน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยที่มีกล้องวงจรปิด และระบบตรวจจับใบหน้าผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน หรือถ้ามีปัญหาอะไร ก็สามารถติดต่อ Call Center ผ่านวิดีโอคอลล์ได้เลย

มีระบบตรวจสอบใบหน้าผู้ที่ไม่ลงทะเบียน
มีบริการวิดีโอ Call Center ตลอด 24×7

ความพิเศษอีกอย่างของ Bingobox คือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ ผู้ซื้อ Franchise สามารถขยับหรือเคลื่อนย้ายร้านได้โดยสั่งงานผ่านแอปในสมาร์ทโฟน สว่นการสต็อกสินค้า จะมีพนักงานเข้ามาตรวจสอบและเติมสินค้าที่ขาดไปภายใน 20 นาทีที่มีการแจ้ง ซึ่งทาง Bingobox บอกว่าด้วยความสะดวกรวดเร็วในการบริการ จึงใช้พนักงานเพียง 4 คน สำหรับดูแล Bingobox จำนวน 40 สาขา

ย้ายที่ตั้งร้านง่ายๆ สั่งผ่านแอป

อาจไม่ทันสมัยเท่า Amazon Go แต่มั่นใจใช้งานได้

ก่อนหน้านี้ไม่นาน Bingobox ได้ระดมทุนรอบ Serie A มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ โดยมี GGV Capital เป็นผู้ลงทุนหลัก และยังเป็นพันธมิตรกับ Auchan ซูเปอร์มาร์เก็ตจากฝรั่งเศส ซึ่งมีหลายสาขาในจีน จะคอยดูแลแหล่งสต็อกสินค้าให้ เหมาะกับการตั้งใกล้คอนโดมิเนียมเป็นร้านสะดวกซื้อที่ดี

Chen Zilin ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของ Bingobox บอกว่า ทีมได้พัฒนาระบบ Artificial Intelligence และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ในการตรวจสอบสินค้าที่อยู่ภายในร้าน ซึ่งสามารถแยกประเภทสินค้าได้กว่า 200 รายการ ระบบนี้แตกต่างจาก Amazon Go ที่ใช้เทคโนโลยี vision and sensor เพื่อดูว่า ผู้ซื้อได้หยิบสินค้าอะไรออกจากร้านบ้าง และเก็บเงินผ่านบัญชี Amazon ของผู้ซื้ออัตโนมัติ

พนักงานมาตรวจสอบสินค้าและเพิ่มเติมสินค้าที่ขาด

สรุป

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น Amazon Go หรือ Bingobox สิ่งที่ท้าทายก็คือ ความสามารถในการป้องกันการโจรกรรมด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงความสามารถในการเก็บเงินจากผู้ซื้อได้อย่างถูกต้อง ขณะที่ในประเทศไทย เชื่อว่าร้านลักษณะนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน ทั้งเรื่องความปลอดภัย ระบบรับชำระเงิน ยังไม่มีความพร้อม และค้าปลีกรายใหญ่อย่าง 7 ELEVEN ที่มีเกือบหมื่นสาขา ก็มีความสุขดีกับการเตรียมให้คนจ่ายเงินด้วย mobile payment อยู่ในเวลานี้

source: binguohezi.com และ techinasia.com

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา