Bill Gates: ปิดประเทศหนีไวรัสช่วยฟื้นตัวเร็ว แต่ถ้าประเทศกำลังพัฒนา ศก. จะกระทบหนัก

Bill Gates เล่าเรื่องผ่าน reddit ว่าเขามีโอกาสศึกษาเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ อีโบลา และโควิด-19 รวมถึงที่มาของโรคระบาดมาหลายปีแล้ว เขาเรียนรู้ว่ามันควรจะป้องกันอย่างไร เราควรรับมือกับพวกมันอย่างไร ซึ่งมูลนิธิเกตส์เองก็เคยบอกว่าจะทุ่มเงินช่วยรับมือโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกมากถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.2 พันล้านบาท

จากนั้น Gates ก็เล่าว่าเขากำลัง remote work อยู่ (หรือทำงานระยะไกลจากที่อื่นที่ไม่ได้เข้าออฟฟิศ เช่น work from home) กับทีมลีดของมูลนิธิเกตส์ เพื่อที่จะสื่อให้โลกหันมาเน้นทำงานจากบ้านเถอะเพื่อให้ผู้คนปลอดภัยจากโควิด-19 ระบาด ซึ่งก่อนหน้านี้ Gates ก็เพิ่งลงจากตำแหน่งจากบอร์ดของ Microsoft และ Berkshire Hathaway เพื่อไปมุ่งพัฒนางานในมูลนิธิของเกตส์เอง การรับมือกับโรคระบาดก็ถือเป็นงานหลักที่เขาจะมุ่งไป

จากนั้นก็พูดถึงสิ่งที่เขาเคยเตรียมตัวสำหรับโรคระบาดตั้งแต่ปี 2015 ก่อนจะขึ้นเวที Ted Talk พูดถึงประเด็นการรับมือกับโรคระบาดว่า มนุษย์ยังเตรียมตัวน้อยไปกับเรื่องนี้ เขาบอกไว้ในตอนนั้นว่า ถ้าจะมีอะไรที่จะสามารถสังหารคนได้มากถึง 10 ล้านคนใน 10 ปีข้างหน้ามันก็น่าจะเป็นเชื้อไวรัสมากกว่าสงคราม

ไม่ใช่ขีปนาวุธแต่เป็นเชื้อโรคต่างหาก

เราลงทุนมากมายมหาศาลเพื่อป้องกันขีปนาวุธ ป้องกันนิวเคลียร์ แต่เราลงทุนน้อยมากกับการรับมือกับระบบที่จะยับยั้งโรคระบาดได้ เราไม่พร้อมสำหรับโรคระบาดครั้งถัดไป ลองดูอีโบลาสิ ผมเชื่อว่าคุณรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์ ผมพยายามติดตามเรื่องนี้ พยายามหาทางกำจัดโรคโปลิโอ

(โรคโปลิโอเกิดจากไวรัสโปลิโอ อาศัยอยู่แต่ในร่างกายมนุษย์เท่านั้น ไวรัสนี้ติดมาจากการขับของเสียของผู้ป่วยที่ติดเชื้อฯ หรือเมื่อไอ จาม และแพร่กระจายผ่านสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนมาในอาหาร/ น้ำ หรือสัมผัสกับผู้ป่วยโรคนี้โดยตรง)

Gates พูดถึงระบบที่ไม่พร้อม ไม่มีกลุ่มนักระบาดวิทยาที่จะสามารถลงพื้นที่ที่มีโรคระบาดได้ทันที แม้จะมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นอาสาสมัครรับหน้าที่ด้านนี้ไป แต่มันก็ไม่ใช่การรับมืออย่างทันท่วงที ซึ่งถือว่าเป็นความล้มเหลวของโลก จากนั้นก็พูดถึงหนังสมัยปี 2011 เรื่อง Contagion ที่มีทีมลงพื้นที่ทันที แต่นั่นก็เป็นเพียงหนังฮอลลีวูด ไม่ใช่โลกจริง

ความไม่พร้อมรับมือกับโรคระบาด จะเป็นสาเหตุให้คนตายมหาศาล

จากนั้น Gates ก็พูดถึงโรคอีโบลา (Ebola โรคติดต่อเกิดจากเชื้อไวรัสอีโบลา มีความรุนแรงอันตรายถึงชีวิต ระบาดครั้งแรกที่สาธารณรัฐคองโก เมื่อร่างกายได้รับเชื้อไวรัส จะสร้างความเสียหายแก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและอวัยวะสำคัญต่างๆ ในที่สุดแล้ว เซลส์การแข็งตัวของเลือดต่ำ นำไปสู่ภาวะเลือดออกรุนแรงไม่สามารถควบคุมได้) โรคอีโบลานี้ ภายใน 428 วัน มีคนเสียชีวิตราว 10,194 ราย ลุกลาม 3 ประเทศแอฟริกาตะวันออก

Gates บอกว่ามี 3 เหตุผลที่ทำให้โรคระบาดอีโบลา ไม่ระบาดเพิ่มขึ้นคือ หนึ่ง เพราะมีบุคลากรทางการแพทย์ทำงานอย่างกล้าหาญ สอง ธรรมชาติของไวรัส มันไม่ได้แพร่ระบาดได้ในอากาศ เมื่อได้รับเชื้อคนก็จะป่วย ล้มหมอนนอนเสื่อ สาม มันไม่ได้แพร่ระบาดในเขตเมือง มันจึงเป็นความโชคดี เพราะในตัวเมืองคนรวมตัวอยู่กันเยอะ

แต่ไม่ได้หมายความว่ารอบหน้าที่มีไวรัสระบาดอีก เราจะโชคดี คุณอาจจะต้องเจอกับเชื้อไวรัสที่คนสุขภาพดีสามารถติดเชื้อได้ จากนั้นเขาก็ขึ้นเครื่องบิน หรือไปเดินตามตลาด ธรรมชาติของไวรัสมีทั้งในแบบของอีโบลา มีทั้งในแบบของการก่อการร้ายทางชีวภาพ (bioterrorism)

Bill Gates, Melinda Gates (ภรรยาบิล เกตส์) ในชุดป้องกันเชื้อโรค ภาพจาก GatesNotes

แต่ถ้ามันเป็นแบบในอดีตอย่างไข้หวัดใหญ่สเปน (Spainish Flu) ที่มีมาตั้งแต่ปี 1918 ที่แพร่ระบาดได้ในอากาศ มันจะระบาดอย่างรวดเร็วมาก ภายใน 263 วัน เสียชีวิตแล้ว 33,365,533 ราย นี่จึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความใส่ใจ เราสามารถสร้างระบบป้องกันที่ดีได้ เพราะเรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราผลิตยา ดูแผนที่ ดูการเคลื่อนย้ายของคนได้ เรามีเครื่องมือ แต่เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อม เราต้องจัดการกับโรคระบาด

สิ่งแรก เราต้องมีระบบสาธารณสุขที่ดีในประเทศที่ยากจน ให้แม่สามารถคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย ให้ลูกได้รับวัคซีนป้องกันโรค สอง เราต้องการกลุ่มคนทำงานทางการแพทย์ สาม เราต้องจับคู่ทหารกับบุคลากรทางการแพทย์ให้ทำงานร่วมกันเพื่อที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเป็นระบบโลจิสติกส์ที่ปลอดภัย

สี่ เราต้องทำแบบจำลองที่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเกมแบบเชื้อโรค ไม่ใช่เกมแบบสงคราม (เกมแบบเชื้อโรค สมมติว่าคนสุขภาพดีคนหนึ่งติดเชื้อเดินทางไปที่ไหน ก็สามารถแพร่เชื้อต่อได้ในคนที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แพร่ระบาดเชื้อโรคต่อไปอีก 2 คนขึ้นไป เป็นต้น) ห้า ยกระดับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและการวินิจฉัยโรค

World Bank เคยประเมินว่า ถ้ามีโรคระบาดทั่วโลกเราต้องใช้เงินมากถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 97 ล้านล้านบาท การวิจัยพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความเท่าเทียมทางสาธารณสุขโลก และทำให้ผู้คนปลอดภัย ถ้าเราเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ (ปี 2015) เราเตรียมพร้อมแน่สำหรับการรับมือโรคระบาดครั้งใหม่

สาเหตุที่ Bill Gates แนะนำให้ปิดประเทศ หากคิดจะรับมือกับไวรัสให้ไวที่สุด

ก่อนจะแนะนำให้ปิดประเทศ มีผู้คนเข้าไปซักถามเขาใน Reddit ว่า หากประเทศสหรัฐอเมริกานิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลย จะทำให้คนเสียชีวิตมากมายถึง 4 ล้านคน แต่ถ้าใช้ยุทธศาสตร์เพื่อบรรเทาการระบาดของโรคได้ ​(mitigation strategy) เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และการทำให้อัตราคนติดเชื้อน้อยลง (flattening the curve) จะทำให้คนอเมริกันเสียชีวิตราว 1-1.2 ล้านคน

ถ้าใช้ยุทธศาสตร์ในการปราบปราม (suppression strategy) คือการชัตดาวน์หรือปิดหมดทุกอย่างเป็นเวลา 18 เดือน อาจทำให้ผู้คนเสียชีวิตไม่กี่พันคน (อ้างอิงจากงานนี้ Imperial College COVID-19 Response Team) ประเด็นนี้ Gates ตอบว่ามันดูเป็นโมเดลที่ติดลบมากไปหน่อย ซึ่งจากประสบการณ์ที่จีนทำ คือการชัตดาวน์หรือการปิดทุกอย่างก็สามารถลดจำนวนการติดเชื้อได้จริง ซึ่งเขาบอกว่า Imperial Model ที่ยกมา ไม่ค่อยสอดคล้องตามที่จีนทำเท่าไร

Gates เห็นว่าโมเดล social distancing หรือการ shut down นั้นได้ผล เพราะถ้าไม่ใช้มาตรการนี้ เชื้อโรคจะแพร่กระจายหนักกว่าเก่า โรงพยาบาลจะทำงานหนัก สิ่งที่ต้องทำคือหลีกเลี่ยงปัญหาที่ทำให้โรคระบาดขึ้น

ขณะที่คำถามที่ว่าวิฤตนี้ สิ่งที่จะทำให้มีความหวังขึ้นมาได้คืออะไร Gates ตอบว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ในประเทศที่ร่ำรวย การทดลองทำ social distancing หรือการเว้นระยะห่างจากสังคม หรือที่เขาเรียกว่าเป็นการ shut down สัก 2-3 เดือนจะได้ผลดีในประเทศที่ร่ำรวย แต่ถ้าประเทศที่กำลังพัฒนาทำเช่นนั้น เขากังวลว่าการ shut down จะทำลายเศรษฐกิจให้แย่ลงกว่าเก่า

แต่ถ้าบางประเทศที่รับมือได้ดีจะทดลองปิดประเทศสัก 10 สัปดาห์ (หรือประมาณ 2 เดือนครึ่ง) ก็อาจจะทำให้ฟื้นฟูกลับมาได้และคนติดเชื้อน้อยลงเหมือนจีน

ที่มา –  reddit

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์