ในยุคแห่งโรคระบาด วิกฤตโควิดส่งผลกระทบในหลายมิติไปทั่วโลก โดยเฉพาะในแง่เศรษฐกิจ ธุรกิจรายเล็กรายน้อยล้มหายตายจาก บริษัทใหญ่หลายแห่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน บริษัทจำนวนไม่น้อยต้องหยุดพักกิจการชั่วคราวเนื่องจากมาตรการของภาครัฐ และบริษัทอีกหลายแห่งเช่นกันที่อาจต้องปิดกิจการถาวรเนื่องจากไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ดังเดิม
แต่ไม่ว่าธุรกิจใดจะหยุดพัก ธุรกิจใดจะล้มหายตายจากไป บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก (ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทสายเทคโนโลยี) ยังรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ และมีมูลค่าเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล
Financial Times สำรวจและจัดอันดับ Market Capitalization (Market Cap) หรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่เป็น “ผู้ชนะในยุคโควิด” เนื่องพุ่งสูงจากวันที่ 1 มกราคม 2020 จนถึงช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
อันดับ 1 Amazon โควิดทำอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ร่ำรวยมากขึ้น
ในยุคแห่งโรคระบาด รัฐบาลทั่วโลกทำมาตรการ Lockdown แต่พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้คนยังคงมีอยู่ ทางออกจึงเป็นการซื้อของออนไลน์และจัดส่งผ่านทางบริการเดลิเวอรี่
Amazon มีมูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 4.01 แสนล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 43.8% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
ในช่วงโควิดที่ผ่านมา Amazon ทุ่มเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์เพื่อขับเคลื่อนระบบขนส่งสินค้า รวมถึงเพิ่มค่าจ้างให้พนักงานและประกาศรับสมัครงานเพิ่มหลักแสนตำแหน่งเพื่อเอามาเสริมบริการเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ
อันดับ 2 Microsoft โควิดทำประชุมออนไลน์บูม
เมื่อ Work From Home ตอบโจทย์ยุคโควิดที่ผู้คนไม่สามารถออกไปทำงานในออฟฟิศ แน่นอนว่า การประชุมงานผ่านโปรแกรมออนไลน์จึงเป็นทางรอด
Teams โปรแกรมประชุมออนไลน์ของ Microsoft มียอดการใช้งานพุ่งสูงขึ้นมาก ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีสถิติระบุว่าใน 1 วันมีคนใช้งานถึง 75 ล้านคนทั่วโลก เติบโตจากปี 2019 ซึ่งมีประมาณ 20 ล้านคนเท่านั้น
Microsoft มีมูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.69 แสนล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 22.4% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 1.473 ล้านล้านดอลลาร์
อันดับ 3 Apple โควิดไม่กระทบรายได้ หน้าร้านปิด ออนไลน์โต
แม้ว่าโควิดจะทำให้ Apple ต้องปิดหน้าร้านชั่วคราวไปกว่า 500 แห่งทั่วโลก แต่รายได้ของทางบริษัทก็ยังไม่ได้หดหายไปมากนัก เนื่องจากมีหลายผลิตภัณฑ์ที่ยังทำเงินทางออนไลน์ เช่น บริการสตรีมมิ่ง AppleTV+ ที่เพิ่งเปิดให้บริการ และรวมถึง iPhone, iMac และ MacBook Air รุ่นใหม่ที่ทยอยออกมาทำตลาดกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ทำให้ Apple มีมูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.19 แสนล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 16.8% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 1523 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หากนำตัวเลขการพุ่งขึ้นของมูลค่า Market Cap ของทั้ง 3 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มารวมกัน จะมีมูลค่าสูงถึง 8.89 แสนล้านดอลลาร์
บริษัทอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- Tesla: หุ้นดีดตัวสูงขึ้นในช่วงโควิด มูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.08 แสนล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 143.8% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 1.83 แสนล้านดอลลาร์
- Pinduoduo: อีคอมเมิร์ซจีนน้องใหม่ที่มี Tencent หนุนหลัง มูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 125.6% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 9.92 หมื่นล้านดอลลาร์
- Zoom Video: บริการประชุมออนไลน์ยอดฮิตแห่งยุคโควิด มูลค่า Market Cap เพิ่มขึ้นจากเดิม 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 255.1% ส่งผลให้ Market Cap ของบริษัทอยู่ที่ 6.68 หมื่นล้านดอลลาร์
อ้างอิง – FT (สามารถเข้าไปดู 100 อันดับของทุกบริษัทได้ที่ลิงค์อ้างอิง)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา