เบลคิน (Belkin) ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับสมารท์โฟนรายใหญ่ของโลก เปิดเผยถึงเทรนด์ของอุปกรณ์เสริมผู้ใช้งานในภูมิภาคอาเซียน พบว่ายังเน้นการใช้งานไปยังสายชาร์จเป้นหลัก ในขณะที่ประเทศที่มีรายได้สูง เน้นใช้งานแบบไร้สาย พร้อมมองปีหน้า เป็นปีที่เน้นการใช้งาน ทั้งการชาร์จ และส่งข้อมูลแบบไร้สายความเร็วสูง
ชาคริต ศิริกุลประดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียน สำหรับภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า แบรนด์เบลคิน เป็นแบบพรี่เมียมของอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน ทั้งเรื่องของสายชาร์จ ชาร์ทไร้สาย และระบบการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยได้รับการรับรองว่าเป็น MFi (Made for iPhone) และ MFM (Made for MagSafe) จากทาง Apple จึงสามารถมั่นใจในเรื่องคุณภาพของสินค้าเทียบเท่ากับสินค้าที่จำหน่ายโดย Apple ได้
“ภาพรวมของยอดขายในตลาดอาเซียนมีการปรับตัวที่ดีขึ้นทุกประเทศ เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนของ ASEAN 6 (สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย) คาดการณ์ในปีนี้ มียอดขายประมาณ 850,000 ชิ้น โตขึ้น 35% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว โดยสินค้าประเภทสายชาร์จมีสัดส่วนมากสุดถึง 265,000 ชิ้น รองลงมาเป็น wall charger 225,000 ชิ้น และ MagSafe 18,000 ชิ้น”
หากแยกดูพฤติกรรมการใช้งานแต่ละประเทศพบว่า ประเทศที่มีรายได้ของประชากรสูง อย่างสิงคโปร์ มักจะใช้อุปกรณ์เสริมแบบไร้สายเป็นหลัก โดยเฉพาะ MagSafe มียอดขายมากที่สุดใน ASEAN 6 ส่วนไทย และมาเลเซีย ยังมีพฤติกรรมการใช้งาน โดยใช้ wall charger (ที่ชาร์จไฟ) ที่มีพอร์ตรองรับหลากหลายแบบ ส่วนเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีการใช้งานรูปแบบเดียว ไม่หลากหลาย
ส่วนของเทรนด์ปีหน้า ชาคริต มองว่า การชาร์จไร้สาย จะเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยอาจจะพัฒนาการชาร์จไร้สายที่ให้กำลังไฟแรงขึ้น และเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลที่เร็วมากกว่าเดิม โดยมั่นใจว่าเบลคิน จะพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ให้รองรับการใช้งานที่ Apple ออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา