ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ได้รายงานผลประกอบการของปี 2020 กำไรในไตรมาสลดลงมากถึง 52% จากธนาคารต้องตั้งสำรองจาก COVID-19 ขณะเดียวกันได้ผลดีจากการควบรวมกิจการของเพอร์มาตาแล้ว และกลายเป็นสถาบันการเงินใหญ่อันดับ 6 ของเอเชียแล้ว
รายงานของธนาคารในปี 2020 กล่าวถึงการควบรวมกิจการของธนาคารเพอร์มาตา ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย และทำให้ธนาคารกรุงเทพนั้นกลายเป็นสถาบันการเงินใหญ่อันดับ 6 ในทวีปเอเชีย ซึ่งธนาคารมองว่าเป็นการเสริมศักยภาพในการบริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กำไรสุทธิของธนาคารกรุงเทพ ปี 2020 อยู่ที่ 17,181 ล้านบาท ลดลงจากปี 2019 ที่ผ่านมาถึง 52% รายได้รวมจากการดำเนินงานอยู่ที่ 28,627 ล้านบาท ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ หรือ NIM ไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.25% ทางด้าน NPL ของธนาคารไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.9% อัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 182%
รายได้จากดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 77,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปี 2019 สาเหตุมาจากการรวมรายได้จากธนาคารเพอร์มาตาเข้ามา และรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 41,682 ล้านบาท ลดลง 33.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักๆ นั้นมาจากกำไรสุทธิจากเงินลงทุนและรายได้อื่นๆ ของธนาคารลดลง แต่ถ้าหากเป็นค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงเพียงแค่ 13.3% เท่านั้น อย่างไรก็ดีธนาคารยังได้กล่าวถึงรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 2020 นั้นเพิ่มมากขึ้นด้วย
ค่าใช้จ่ายของธนาคารในไตรมาสนี้อยู่ที่ 65,973 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุมากจากค่าใช้จ่ายของธนาคารเพอร์มาตาที่เพิ่มเข้ามา
ขณะเดียวกันธนาคารยังได้แจ้งถึงการตั้งสำรองหนี้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่จะเกิดขึ้นมากถึง 31,196 ล้านบาท
นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวสำคัญของธนาคารกรุงเทพในปี 2020 คือการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคารภายใต้เกณฑ์ Basel III เป็นเงิน 750 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเดือนกันยายน เพื่อเสริมโครงสร้างเงินทุนให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา