จีนหาย-รายได้หด-ค่าเช่าพุ่ง ‘บรรทัดทอง’ ซบเซา ร้านเก่าแก่ทยอยปิด

จีนทำ จีนใช้ จีนเป็นเหยื่อ แต่ทำไมผลกรรมดันมาตกอยู่ที่ไทย?

บรรทัดทอง

หากใครยังจำข่าว ‘Wang Xing’ นักแสดงจีนที่โดนลักพาตัวในไทยได้อยู่บ้าง คงพอทราบว่าเหตุการณ์นั้นทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย จนนักท่องเที่ยวจีนไม่กล้าเดินทางมาเที่ยว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในกระบวนการลักพาตัวนักแสดงหนุ่มอาจมีผู้เกี่ยวข้องคนไทยร่วมรู้เห็นอยู่บ้าง แต่รู้หรือไม่ ตัวการสำคัญของคดีนี้คือ ‘คนจีน’ ด้วยกันเอง

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 มีรายงานว่า ผู้ต้องหาสัญชาติจีน 10 คนโดนตำรวจไทยส่งกลับประเทศไปเป็นที่เรียบร้อย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนจีน รวมถึง Wang Xing โดยทำงานเป็นขบวนการปักหลักอยู่ที่เมียนมา

Wang เล่าว่า ตนโดนหลอกให้มาประเทศไทย เพราะจะมีโอกาสในการทำงานที่นี่ แต่สุดท้ายก็โดนลักพาตัวข้ามชายแดนไป

‘พลตำรวจตรี ธัชชัย ปิตะนีละบุตร’ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะปฏิบัติการช่วยเหลือนักแสดงหนุ่ม แก๊งมิจฉาชีพจีนดังกล่าว หนีออกจากเมียนมาเข้าประเทศกัมพูชาไป ก่อนจะมาถูกจับในไทยนี่เอง 

พลตำรวจตรีเผยว่า ในชาวแก๊งจีน 10 คนนั้น แต่ละคนก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป โดยมีตั้งแต่ระดับผู้จัดการ คอลเซ็นเตอร์ จนถึงรปภ.

แม้สุดท้าย ผลลัพธ์จะออกมาว่าคนจีนเป็นคนหลอกคนจีนด้วยกันเอง แต่ประเด็นเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ กลายเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลงจากเดือนละ 600,000 คน เหลือ 300,000 คน

ถ้าถามว่าการที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงกระทบใครบ้าง หนึ่งในคำตอบนั้นคงหนีไม่พ้น ‘บรรทัดทอง’

นักท่องเที่ยวจีนหาย บรรทัดทองซบเซาตาม

ถนนบรรทัดทองเป็นย่านที่รวบรวมร้านอาหารไว้กว่า 300 เจ้า แถมยังติดอันดับ 14 ด้านการเป็นถนนที่คูลที่สุดในโลกประจำปี 2024 

จากความโด่งดังของย่าน ปกติแล้ว ราวๆ 20-30% ของคนที่มาเที่ยวเล่นบนถนนบรรทัดทองจึงเป็น ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ ซึ่งประกอบไปด้วยคนจีนเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Reuters เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 18 พฤษภาคม 2025 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแค่ 13.4 ล้านคนเท่านั้น น้อยกว่าปี 2024 ราวๆ 1.75% และถ้าเจาะละเอียดไปที่นักท่องเที่ยวจีนอย่างเดียว จะเห็นเลยว่า ตัวเลขประชาชนจีนที่เดินทางเข้าไทย น้อยกว่าปีที่แล้วถึง 25% ทั้งๆ ที่ในช่วงก่อนโควิด ประเทศเราเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของพวกเขาเลย

ในเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ไม่เดินทางเข้าไทยเยอะเหมือนเดิม บรรดาผู้ประกอบการบนถนนบรรทัดทองจึงต้องรับผลกระทบนี้ไปด้วย ซึ่งรายได้ของร้านอาหารละแวกนั้นก็ลดลงประมาณ 40-50% เลย

ทั้งนี้ คนไทยบางส่วนมองว่า จะให้โทษนักท่องเที่ยวอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะหลายๆ เสียงจากชาวเน็ตเห็นตรงกันว่า ส่วนหนึ่งที่ไม่อยากไปเดินบรรทัดทอง ก็เพราะคุณภาพอาหารลดลง ขณะที่ราคามีแต่สูงขึ้น

ไม่ใช่แค่จีนหาย แต่หลายร้านเจอต้นทุนสูง

Thai Food
ภาพจาก Facebook: ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ จอมนางแห่งสวนหลวง Fanpage

นอกจากนักท่องเที่ยวที่ลดลงและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณภาพอาหารแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ค่อยๆ เลือนหายไปจากบรรทัดทองคือ ‘ร้านอาหารเก่าแก่’ และร้านเล็กๆ ที่เคยเป็นหัวใจของชุมชน

ตัวอย่างของร้านดังที่ต้องปิดตัวลงคือ ‘ข้าวมันไก่เจ๊โบว์’ ซึ่งเปิดทำการมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยราคาจานละแค่ 12 บาทเท่านั้น

ก่อนจะย้ายออกไปที่อื่น ทางร้านได้โพสต์ขอบคุณลูกค้าทุกคน รวมถึงชี้แจงว่า “ในที่สุดความเปลี่ยนแปลงมันก็ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา เจ๊เองก็หนีไม่พ้น จากหลายเหตุผลที่ทุกคนอาจจะทราบดี แต่การปิดร้านครั้งนี้ ไม่ใช่จุดสิ้นสุด”

‘เนติวิทย์ โชติพัฒน์ไพศาล’ นักกิจกรรมชื่อดังจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีโอกาสเข้าไปคุยกับเจ้าของร้าน พร้อมโพสต์ว่า ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ไม่อาจสู้ค่าที่จุฬาฯ อีกต่อไป โดยในมุมมองของเธอ บรรทัดทองกลายเป็นพื้นที่ทุนใหญ่ มากกว่าเป็นพื้นที่ให้ร้านเล็กๆ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง มากกว่าเป็นร้านที่คนเข้าถึงได้ ซึ่งคนในชุมชนเก่าๆ ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว

ไม่ใช่แค่ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ที่ต้องย้ายออกจากถนนบรรทัดทองไป แต่ ‘บัวลอยปริญญา’ สาขาบรรทัดทองก็ต้องย้ายไปรวมกับร้านสเต็กอาม่าที่อยู่ในละแวกนั้น โดยให้เหตุผลว่า ค่าวัตถุดิบสูงขึ้นหลายเท่าตัว แถมค่าบริหาร ค่าแรงพนักงาน และค่าเช่าที่ยังเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี

ทางร้านชี้แจงว่า “ถ้าจะอยู่ต่อได้ เราต้องขึ้นราคาสินค้าเท่าตัว เราไม่อยากขึ้นราคาสินค้าไปมากกว่านี้ ทำให้เราอยู่ตรงนี้ต่อไม่ไหวจริงๆ”

ค่าเช่าที่บรรทัดทองแพงจริงไหม?

บรรทัดทอง
ภาพจาก Facebook: สามย่าน – บรรทัดทอง

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของร้านเล็กๆ ที่ไม่อาจทนค่าที่ในย่านบรรทัดทองไหว ซึ่งหากมาลองดูค่าเช่าตามประกาศบนเว็บไซต์ของ ‘สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ (PMCU) ราคาเช่าเริ่มต้นในละแวกสวนหลวง-บรรทัดทองจะอยู่ที่

  • 2x,xxx บาท สำหรับพื้นที่ 61.25-73.5 ตารางเมตร ด้วยระยะเวลาเช่า 3 ปี
  • 5x,xxx บาท สำหรับพื้นที่ 147 ตารางเมตร ด้วยระยะเวลาเช่า 3 ปี

อย่างไรก็ตาม หากไปดู ‘ราคาเซ้ง’ ณ ปลายเดือนพฤษภาคม 2025 ที่นายหน้าแถวบรรทัดทองได้โพสต์ไว้ อัตราจะอยู่ที่

  • เซ้งร้านเปล่า: ราคา 650,000-900,000 บาท พร้อมค่าเช่าเดือนละ 4x,xxx – 6x,xxx บาท
  • เซ้งร้านปิ้งย่าง: ราคา 2,600,000 บาท พร้อมค่าเช่าเดือนละ 9x,xxx บาท
  • เซ้งคาเฟ่โครงการ ‘Dragon Town’: ราคา 2,200,000 บาท พร้อมค่าเช่าเดือนละ 70,000 บาท
  • ไม่เซ้ง: ค่าเช่าเดือนละ 4x,xxx

เราคงไม่สามารถไปวัดได้ว่าค่าเช่าในอัตรานี้ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการทำร้านอาหารเป็นของตนเองไหม แต่หากคุณคิดจะเป็นผู้ประกอบการในย่านนั้น อาจต้องลองตั้งคำถามดูว่า  

  1. จะมีเวลาตักตวงลูกค้าประมาณกี่ชั่วโมงต่อวัน? เนื่องจากเป็นละแวกที่มักครึกครื้นแค่ช่วงเย็น
  1. ด้วยค่าเช่าที่ในอัตรานั้น โดยยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าวัตถุดิบ เราต้องตั้งราคาขายกี่บาท?
  1. หากอยากขายอาหารในราคาหลักสิบ ดั่งร้านเก่าแก่เจ้าอื่นๆ ต้องขายให้ได้อย่างต่ำกี่จานต่อวัน ท่ามกลางคู่แข่งกว่า 300 เจ้า ถึงจะไม่ขาดทุน?
  1. หากต้องขึ้นราคาอาหาร จะสมเหตุสมผลกับกำลังจ่ายของนิสิตหรือชุมชนละแวกนั้นไหม หรือต้องพึ่งนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเป็นส่วนใหญ่?

ในเมื่อค่าเช่าที่ไม่ตอบโจทย์ร้านเล็กๆ คุณภาพอาหารไม่ถูกปากผู้บริโภค แถมไทยยังไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรกๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกต่อไป คำถามคือ ถ้าปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข สุดท้าย บรรทัดทองจะหลงเหลือไว้ให้ใคร?

ที่มา: VNEXPRESS (1) (2),  Facebook (1) (2) (3) (4), PMCU

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา