“บ้านปู” ปิดดีลแหล่งก๊าซ “บาร์เนตต์” รับราคาพุ่งช่วงหน้าหนาว ต่อยอดพอร์ตธุรกิจในสหรัฐฯ

บมจ.บ้านปู ปิดดีลสัญญาซื้อขายแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาก่อนกำหนดเดิม 3 เดือน ด้วยมูลค่าการลงทุนสุทธิ 489.80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,407.89 ล้านบาท

banpu

ต่อยอดธุรกิจในสหรัฐอเมริกา

สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู กล่าวว่า ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะเป็น Bridging Fuel หรือเชื้อเพลิงที่เป็นตัวเชื่อมสำคัญในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเชื้อเพลิงที่ต้นทุนต่ำไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคต

ทั้งยังเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีจากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาวไปจนถึงปี 2593 บริษัท จึงไม่หยุดนิ่งในการแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่ม EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติในพอร์ตของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

banpu

“ปลายปีที่ผ่านมาได้ทำสัญญาผ่าน บ้านปู นอร์ท อเมริกา คอเปอเรชั่น หรือ BNAC ที่ดูแลธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพื่อลงทุน และดำเนินการผลิตในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ และที่ตัดสินใจปิดดีลเร็วขึ้นจากกำหนดไว้เดือนธ.ค. 2563 เพราะสามารถรับรู้รายได้ และสร้างกระแสเงินสดได้ทันที เป็นช่วงที่ราคาก๊าซจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น”

สำหรับการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ทำให้บ้านปูฯ เป็นผู้ดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญที่สุดที่นี่ บนพื้นที่กว่า 350,000 เอเคอร์ ซึ่งมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองที่พิสูจน์แล้ว (1P) ประมาณ 3.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่า มีกำลังการผลิตเฉลี่ยประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ

banpu

บ้านปูฯ เป็นบริษัทไทยรายแรกที่ลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เริ่มที่แหล่งก๊าซธรรมชาติมาร์เซลลัสซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 104,000 ตารางไมล์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 522 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 15,000 ล้านบาทะมีกำลังการผลิตเฉลี่ยประมาณ 170 – 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ในปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ที่บริษัทเข้าไปทำตลาด

สรุป

การลงทุนของบ้านปูในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์นั้นน่าสนใจ เพราะมันสามารถผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่เทียบเท่ากับกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการได้ถึง 1.2 วัน ดังนั้นต้องติดตามกันว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจบ้านปูฯ ได้ขนาดไหน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา