Online Fast-Fashion โตกระฉูด ASOS โชว์ยอดขาย 1,800 ล้านปอนด์ สวนทางกำลังซื้อในประเทศซบ

แม้ Visa จะออกมาบอกว่า การจับจ่ายในสหราชอาณาจักรนั้นหดตัวแรงสุดในรอบ 4 ปี แต่ ASOS ยักษ์ Online Fast-Fashion ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง และล่าลุดก็ทำยอดขายได้กว่า 1,800 ล้านปอนด์ หรือราว 78,000 ล้านบาท

ภาพจาก Twitter ของ ASOS Carreer

กำลังซื้อซบ ไม่กระทบธุรกิจ Online Fashion

ในชาวไทยอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อ ASOS เท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นในกลุ่มยุโรป และสหรัฐอเมริกา ร้าน Online Fashion รายนี้กลับเป็นที่นิยมมาก เพราะวางตัวเป็นแบรนด์เสื้อผ้า Fast-Fashion ชื่อเดียวกับบริษัท พร้อมภาพลักษณ์ร้าน Multi-brand ที่ขายสินค้าตั้งแต่ Adidas จนไปถึงแบรนด์หรูอย่าง Polo Ralph Lauren

ทำให้ ASOS ที่มีต้นกำเนิดอยู่ในสหราชอาณาจักร เป็นร้าน Online Fashion ที่มีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาในระบบกว่า 5,000 ชิ้นทุกสัปดาห์ และมีสินค้ากว่า 85,000 รูปแบบอยู่ในคลังให้เลือกซื้อ เมื่อประกอบกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ขยับไปซื้อสินค้าบนโลก Online มากกว่าเดิม คงไม่แปลกที่ร้านค้า Online รายนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด

หน้าเว็บไซต์ asos

เพราะยอดขายในปีปฏิทินล่าสุด (สิ้นสุดส.ค. 2560) ASOS ทำได้ 1,800 ล้านปอนด์ (ราว 78,000 ล้านบาท) โตจากปีก่อน 27% มาจากการขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง 2 ใน 5 และถ้าเจาะแค่ยอดในสหราชอาณาจักรอย่างเดียวก็เติบโต 16% คิดเป็นมูลค่า 698 ล้านปอนด์ (ราว 30,000 ล้านบาท)

ลงทุนเพิ่ม สร้างโอกาสการเติบโตต่อเนื่อง

Nick Beighton ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ASOS กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ดีของบริษัท เพราะยอดขายในต่างประเทศก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านการหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ส่วนตลาดในสหราชอาณาจักรเองก็สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยสินค้าที่หลากหลาย ทำให้กำลังซื้อหดไม่กระทบ

ภาพโดย Dressformer (Own work) [CC BY-SA 3.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0)], via Wikimedia Commons
ทั้งนี้ ASOS ตั้งเป้าเติบโต 25-30% ในปี 2561 และเตรียมใส่เงินลงทุนในธุรกิจเพิ่มเติมด้วย ผ่านการตั้งงบไว้ 200-220 ล้านปอนด์ รวมถึงมีแผนสร้างโกดังเพิ่มในสหรัฐอเมริกามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยปัจจุบัน ASOS มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งบนโมบาย และเดสทอปกว่า 135.7 ล้านคน ในเดือนส.ค. และมี Active User 15.4 ล้านทั่วโลก

สรุป

การเติบโตของ ASOS แสดงให้เห็นถึงโอกาสของร้านค้า Online ที่สามารถเติบโตได้ในยุคที่ภาพรวมผู้บริโภคนั้นจำกัดจำเขี่ยเงินในกระเป๋าสตางค์ และคงสื่อไปถึงห้างร้านดั้งเดิมต่างๆ ที่นับวันคนจะเข้าไปซื้อสินค้าน้อยลง เพราะบางครั้งก็ติดปัญหาเรื่องความไม่สะดวก หรือสินค้าไม่ครบทุกอย่าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ Online สามารถแก้ได้อยู่หมัด

อ้างอิง // Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา