อายิโนะโมะโต๊ะ คือแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดผงชูรสอย่างไม่ต้องสงสัย มีประสบการณ์ และความแข็งแกร่งเรื่องแบรนด์ จนครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศต้นกำเนิดอย่างญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน แถมบริษัทยังสร้างความแข็งแกร่งในตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อแข็งแกร่งขนาดนี้ และสินค้าผงชูรสก็สร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงบริษัทยังมีสินค้าอื่น ๆ เช่น กาแฟเบอร์ดี้ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ แล้วทำไม อายิโนะโมะโต๊ะ ต้องมาทำตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Amino Vital และ AminoMOF เพื่อเจาะตลาดนักกีฬา และผู้สูงอายุ
ตลาดนี้มีโอกาสทางธุรกิจมากเท่าไร และในอนาคตสินค้ากลุ่มนี้จะสร้างรายได้ให้กับ อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย มากขนาดไหน Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ วันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ดังนี้
ทำสินค้าสุขภาพตามเป้าสร้าง 1,000 ล้านคนให้สุขภาพดี
วันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า บริษัทแม่มีเป้าหมายสร้างความยั่งยืนให้กับโลกผ่านการช่วยส่งเสริมสุขภาพดีของผู้คนจำนวน 1,000 ล้านคน และการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง 50%
บริษัทในประเทศไทยได้ดำเนินงานตามเป้าหมายดังกล่าวเช่นกัน ทำให้บริษัทเริ่มพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยเริ่มต้นจากแบรนด์ Amino Vital ที่มีกรดอะมิโน BCAA ที่ร่างกายสร้างไม่ได้ เพื่อเจาะกลุ่มนักกีฬา และผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย โดยสินค้าดังกล่าวเริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2019
แต่ด้วย 1/4 ของประชากรไทยเป็นผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้โอกาสการทำตลาดสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพของผู้สูงอายุจึงมีมากขึ้นเช่นกัน บริษัทจึงเปิดตัว AminoMOF สินค้าที่มีกรดอะมิโนลิวซีน และกรดอะมิโนจำเป็น 8 ชนิด มาในรูปแบบซอง โดย 1 กล่อง มี 15 ซอง ราคา 795 บาท
เจาะตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 30,000 ล้านบาท ในไทย
จากโอกาสดังกล่าวทำให้มูลค่าตลาดอาหารเสริมในประเทศไทยปี 2022 มีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และมีการเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยหากเจาะไปที่อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น อาหารเสริมกระดูก, ข้อต่อ และสิ่งทดแทนมื้ออาหาร จะมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดดเป็น 1 ใน 3 ของตลาดรวม
“AminoMOF จะเปิดตัวในเดือน ธ.ค. 2023 เน้นวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ก่อน โดยสินค้าดังกล่าวมีขายที่ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และปัจจุบันสินค้าของบริษัทยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง ผ่านการเน้นที่กรดอะมิโนลิวซีน ที่สำคัญสินค้านี้ผลิตที่ประเทศไทยทั้งหมด”
สำหรับความท้าทายในการทำตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุมีเรื่องความน่าเชื่อถือ และการใช้งานได้จริง รวมถึงเรื่องรสชาติที่หากไม่อร่อย หรือรับประทานได้ยาก จะทำให้การทำตลาดทำได้ยากขึ้น ส่วนเรื่องราคา หากทุกอย่างข้างต้นสามารถทำได้จริง ผู้สูงอายุ และคนในครอบครัวยินดียอมใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์
ยอดขายปี 2024 80 ล้านบาท ปี 2030 ทะลุ 800 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายยอดขายของ AminoMOF และสินค้าอื่น ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุในปี 2024 ตั้งไว้ที่ 80 ล้านบาท และปี 2030 จะปิดที่ 800 ล้านบาท ซึ่งภายในปี 2030 กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจะมีสินค้ารวมกว่า 10 ตัวด้วยกัน
“ในปี 2022 สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพประเภทสินค้าสำหรับนักกีฬาทำรายได้ 10 ล้านบาท โดยหากรวมเอาสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งหมด ในปี 2030 จะทำรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท และคิดเป็น 10% ของรายได้บริษัทในประเทศไทย”
- ปรับใหญ่! อายิโนะโมะโต๊ะ จากจำหน่ายผงชูรส สู่องค์กรเพื่อสุขภาวะมนุษย์ สังคม และโลกของทุกคน
- CRC ส่ง Tops Vita ชิงแชร์ตลาดวิตามิน-อาหารเสริม 64,000 ล้าน หวัง 5 ปี ปั้นยอดขาย 1,500 ล้าน
ปัจจุบันรายได้หลักของ อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย มาจากกลุ่มเครื่องปรุงรส เช่น ผงชูรสแบรนด์อายิโนะโมะโต๊ะ, แบรนด์รสดี และซอสทาคุมิ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ส่วนที่เหลือมาจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ และกาแฟพร้อมดื่มเบอร์ดี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในเชิงอุตสาหกรรมอื่น ๆ
อ้างอิง // อายิโนะโมะโต๊ะ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา