ผลสำรวจและจัดอันดับของ Brand Finance องค์กรที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และคุณค่าของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ระบุว่า AIS เป็นแบรนด์ไทยได้เป็น World’s Strongest Telecoms Brand อันดับ 1 ชนะ China Mobile แชมป์เก่า และเป็นแบรนด์จากไทยแบรนด์เดียวใน 10 อันดับแรก
อะไรคือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AIS ประสบความสำเร็จ ได้รับคะแนนดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์ หรือ Brand Strength Index ที่ 90.0 ได้ Rating AAA+
แม้ AIS จะเป็นผู้ให้บริการในไทย ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งของโลก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า AIS จะสร้างแบรนด์ให้ดีและแข็งแกร่ง ยิ่งกว่าประเทศอื่นๆ ไม่ได้ และต่อไปนี้คือ สิ่งที่ AIS ดำเนินการมาโดยตลอดเพื่อรักษาอันดับความแข็งแกร่ง
วิเคราะห์ปัจจัยดัน AIS เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ต้องบอกว่า การสำรวจปีที่ผ่านมา AIS ถือเป็นแบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยมีคะแนนอยู่ที่ 87.9 เป็นอันดับ 2 ตามหลัง China Mobile แต่มาปีนี้สามารถยกระดับจนขึ้นอันดับ 1 และเป็นแบรนด์เดียวที่มีดัชนีคะแนนแตะ 90
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ AIS บอกว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ AIS ได้รับดัชนีคะแนนอันดับ 1 มาจากภาพรวมทั้งองค์กรที่ตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้บริหารและโดยเฉพาะ พนักงานทุกคน มุ่งมั่นและทำตามแผนของบริษัทวางไว้เป็นอย่างดี โดยคาดว่ามีประเด็นหลัก คือ
- มีผลประกอบการที่ดีมาโดยตลอดสะท้อนถึงการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 พิสูจน์ถึงคุณภาพในการให้บริการมาตลอด 29 ปี
- มีการบริหารจัดการ และควบคุมต้นทุนทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี มีการใช้งบทางการตลาดที่สมเหตุสมผล และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการและประเทศได้อย่างยั่งยืน
- การพัฒนาจากผู้ให้บริการมือถือ เป็น Digital Service Provider นำไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะการเริ่มต้น AIS Fibre ซึ่งเป็นบริการ Fixed Broadband และมีผู้ใช้บริการประมาณ 8 แสนรายในปัจจุบัน
“ตลาดโทรคมนาคมไทย ขึ้นชื่อว่า เป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรงที่สุดในโลก AIS สามารถรักษาอันดับ 1 ไว้ได้โดยตลอด ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและท้าทายในยุคสมัยที่แตกต่างตลอด 29 ปีที่ผ่านมา และ AIS ยังตอกย้ำด้วยการเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอันดับ 1 อีกด้วย”
เป้าหมายต่อไป รักษาอันดับ 1
การได้เป็น World’s Strongest Telecoms Brand ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การรักษาอันดับ 1 ไว้เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า เพราะปีหน้า China Mobile รวมถึงอันดับ 3 อย่าง Digi จากมาเลเซีย ต้องยกระดับตัวเองขึ้นแน่นอน ดังนั้น AIS ต้องพัฒนาแนวทางการทำธุรกิจและให้บริการให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ยิ่งไม่ได้มีแค่เรื่อง บริการมือถือ เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว แต่มีเรื่อง Fixed Broadband อย่าง AIS Fibre เข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 8% เป้าหมายสู่การเป็นผู้เล่นรายหลักและมีส่วนแบ่งตลาดระดับ 20–25% ในอนาคต คือความท้าทายสำคัญ
AIS เชื่อมั่นว่า แนวทางการสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับผู้ใช้บริการ และภาพรวมของประเทศ คือ หนึ่งในปัจจัยสำคัญ
ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ คือหัวใจสำคัญ
สมชัย บอกว่า ในยุคของ Digital Disruption พนักงานของ AIS ทุกคนเน้นการให้บริการกับลูกค้า แม้จะเป็นผู้นำตลาด แต่ไม่เคยหยุด มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ให้บริการเสมอ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งลูกค้าที่ใช้บริการและต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม
ตลอดยุค 3G 4G และกำลังจะไปสู่ 5G ในอนาคต AIS ตั้งเป้าต้องเป็นที่ 1 ในใจของลูกค้าเสมอ นั่นแปลว่า ต้องมีบริการที่มีคุณภาพในทุกส่วน ทำให้ได้รับความไว้วางใจ และนำไปสู่การต่อยอดไปบริการอื่นๆ ทำให้ บริการ AIS Fibre แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาด แต่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการได้เป็น World’s Strongest Telecoms Brand ทาง AIS ถือเป็นรางวัลในนามของประเทศไทย ที่ปักหมุดสร้างชื่อเสียงในเวทีโลก เพื่อพิสูจน์ว่า เอกชนไทย สามารถสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา