การแข่งขันของ Fast Food ในไทยดุเดือดต่อเนื่อง ล่าสุดคู่แข่งอย่าง McDonald’s และ Pizza Hut เหมือนนัดกันเปิดตัวแก้ว To Go แก้วน้ำที่มีถาดอาหารอยู่ด้านบน ทำให้ผู้บริโภคสามารถดื่มไป-กินไป ได้อย่างสะดวก
McDonald’s กับชื่อ Snack 2 Go
ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. McDonald’s ได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่มาในรูปแบบแก้วน้ำผสานกับถาดอาหาร โดยทำตลาดในชื่อ Snack 2 Go ผ่านการร่วมมือกับโคคา-โคล่า จัดทำแก้วในรูปแบบข้างต้น และจำหน่ายพร้อมกับไก่ทอดเกาหลี ชูจุดเด่นเรื่องความสะดวกในการรับประทาน
เพราะสามารถถือแก้วน้ำเพื่อดื่มน้ำ และหยิบไก่ทอดขึ้นมารับประทานไปด้วยกันได้ เหมาะกับชึวิตเร่งรีบในเมืองที่บางครั้งต้องเดินไปกินไป หรืออยู่ระหว่างท่องเที่ยวในรถในช่วงปลายปีก็สามารถหยิบแก้วน้ำ หรืออาหารขึ้นมารับประทานได้ทันที ทั้งยังไม่ต้องเสียพื้นที่ในรถ ผ่านการที่อาหาร และเครื่องดื่มอยู่ในที่เดียวกัน
สำหรับ Snack 2 Go ของ McDonald’s สามารถซื้อได้ที่หน้าร้าน และสั่งอาหารผ่าน Drive-Thru ขายราคาชุดละ 85 บาท (จากปกติ 117 บาท) จะได้เครื่องดื่มโค้กรีฟิลขนาด 22 ออนซ์ พร้อมไก่ทอดเกาหลีที่เลือกได้ระหว่างวิงส์ หรือชิคสติ๊ก 3 ชิ้น ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2563-31 ม.ค. 2564 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
Pizza Hut ขอร่วมวงด้วยแก้ว To-Go
จากนั้นในวันที่ 8 ธ.ค. Pizza Hut ภายใต้การนำของบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด อีกธุรกิจของกลุ่มมหากิจศิริ ได้ส่งบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบเดียวกันออกมาบ้าง ใช้ชื่อว่า แก้ To-Go ชูจุดเด่นเรื่องการตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ แต่ก็ยังต้องใส่ใจสุขภาพ ทำให้การหาเวลารับประทานอาหารมองข้ามไม่ได้
นอกจากนี้จุดเด่นของแก้ว To-Go คือผลิตมาจากวัสดุ Food Grade ด้านบนเป็นกล่องมีฝาสำหรับบรรจุอาหาร และด้านล่างใส่เครื่องดื่มโดยไม่หกออกไปไหน มาพร้อมหลอดของตัวเอง ทำให้ผู้ที่ซื้อชุดนี้ไปสามารถนำไปล้าง และเก็บไว้ใช้ซ้ำได้ ช่วยลดปริมาณขยะอัตโนมัติ
สำหรับแก้ว To-Go ทาง Pizza Hut ร่วมกับ Pepsi ในการทำตลาด ตั้งราคาที่ 139-199 บาท มีอาหารให้เลือกตั้งแต่ชีสซี่ป๊อป ฟิชโดนัท หรือสปาเก็ตตี้จานโปรดที่เลือกได้ถึง 3 เมนู คือ สปาเก็ตตี้ไวท์ครีมซอส สปาเก็ตตี้เบคอน และสปาเก็ตตี้ผัดฉ่าไส้กรอกไก่ ส่วนถ้าจะซื้อเฉพาะแก้ว To-Go ก็มีจำหน่ายในราคา 99 บาท
ปั้นกระแสกระตุ้นตลาดปลายปี
แม้แก้วที่ใส่อาหารด้านบนได้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการปั่นกระแสมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหารเกาหลี หรือโรงภาพยนตร์ก็ต่างออกแบบแก้วแบบนี้เพื่อเพิ่มยอดขายระยะสั้น ส่วนในต่างประเทศก็มีการนำแก้วรูปแบบนี้มาจูงใจเช่นกัน
ดังนั้นการที่ McDonald’s, Pizza Hut และแบรนด์อื่นๆ ในอนาคตที่อาจทำตลาดแก้วรูปแบบนี้น่าจะเป็นการกระตุ้นตลาดในระยะสั้นเท่านั้น เพราะบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เหมาะกับการใช้งานเพื่อขายนานๆ เช่น 2 แบรนด์ดังกล่าวจะทำตลาดในช่วงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตามการที่แบรนด์ Fast Food ออกบรรจุภัณฑ์รูปแบบเดียวกันในเวลาใกล้เคียงกัน ก็น่าจะมีแบรนด์ Fast Food อื่นๆ ในประเทศไทยทำตลาดบรรจุภัณฑ์แบบนี้ เพื่อเกาะกระแส และเติบโตไปด้วยกันในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ได้
สรุป
แก้วนี้ตอนแรกที่ใช้งานอาจสนุก แต่ใช้ไปนานมันอาจไม่เหมาะสมนัก และถูกเอาไปเก็บไว้ในตู้ หรือโดนเพิกเฉยในที่สุด แต่ถึงอย่างไรส่วนตัวมองว่า การกระตุ้นตลาดโค้งสุดท้ายของทั้งสองแบรนด์ Fast Food น่าจะประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย ผ่านการชูวิธีการรับประทานรูปแบบใหม่เป็นหลัก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา