สตรีมมิ่งฉายชนโรง: HBO Max จะนำหนังใหม่ปี 2021 ลงแพลตฟอร์มฉายวันเดียวกับโรงภาพยนตร์

HBO MAX

Warner Bros. นำหนังทุกเรื่องของปี 2021 ลงแอพสตรีมมิ่ง

Warner Brothers Studio ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ประกาศข่าวใหญ่ในวันนี้ว่าจะนำหนังทุกเรื่องของทางค่ายที่กำหนดฉายในปี 2021 ไปฉายบน HBO Max แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของทางค่ายโดยจะฉายไปพร้อมกับการฉายในโรงหนัง ขณะนี้ มีหนังจำนวนทั้งสิ้น 17 เรื่อง ตามประกาศปัจจุบันที่จะนำมาฉายใน HBO Max ในจำนวนนี้รวมถึงหนังที่แฟนๆ จับตารออย่างมากอย่าง “Dune” “In the Heights” และ “The Matrix 4” 

การปรับกระบวนท่าในครั้งนี้ของ Warner Bros. เป็นผลมาจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่กับเราไปถึงเมื่อไหร่ ทำให้ธุรกิจหนังโรงโดนหางเลขไปเต็มๆ

ไม่ได้มีแค่ Warner Bros ที่ทำแบบนี้

แน่นอนว่าวิกฤติ Covid-19 ในครั้งนี้กระทบภาคธุรกิจไปทั่วทุกวงการ (รวมไปถึงภาครัฐด้วยเช่นกัน) และนำมาซึ่ง Disruption นับครั้งไม่ถ้วน และวิกฤตินี้ก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในวงการภาพยนตร์เช่นกัน ในแง่ตัวเลข มีการเปิดเผยว่า ในปี 2020 ธุรกิจโรงหนังทำเงินได้แย่ที่สุดในรอบ 20 ปี

ผลกระทบขนาดนี้นำไปสู่ปรับเปรียบกระบวนท่าขนานใหญ่ของอุตสาหกรรมหนัง ควรกล่าวก่อนว่า กระแสของสตรีมมิ่งกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สอดรับกับวิถีชีวิตปัจจุบันที่คนมีเวลาว่างน้อยลงจนทำให้ต้องหาความบันเทิงจากที่บ้านแทนที่จะออกข้างนอก เห็นได้จากการเติบโตขึ้นของ Netflix และแอพสตรีมมิ่งซีรีส์อื่นๆ 

เมื่อผนวกเข้ากับปัจจัยเรื่องโควิดที่ทำให้หลายประเทศเข้าสู่มาตรการล็อคดาวน์ หรืออย่างน้อยก็ทำให้การเดินทางไม่คล่องตัวเหมือนก่อนหน้านี้ ทำให้แอพสตรีมมิ่งได้อานิสงค์ดังกล่าวไปเต็มๆ ปัจจัยนี้ผลักให้อุตสาหกรรมหนังปรับตัวหันไปพึ่งพาสตรีมมิ่งมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Disney ที่ปรับโครงสร้างธุรกิจ หันไปให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ มากยิ่งขึ้น

Disney+

มากไปกว่านั้น นอกจากการที่บริษัทหนังหันไปให้ความสำคัญกับตลาดสตรีมมิ่ง การมาของโควิดทำให้บริษัทหนังตัดสินใจนำหนังโรงมาลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเสียเลย โดย Warner Bros. ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำแบบนี้ ทว่าก่อนหน้านี้ Disney ได้ตัดสินใจนำ “Mulan” และอนิเมชั่นของ Pixar อย่าง “Soul” มาฉายใน Disney+ รวมไปถึงค่าย Universal Studio ที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ Warner Bros ไปไกลกว่านั้น เพราะประกาศนำหนัง “ทุกเรื่อง” ลงสตรีมมิ่ง

ไม่ใช่ตลอดไป เพราะใครๆ ก็อยากดูหนังโรง

แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะบีบให้บริษัทต้องหาทางรอดเพื่อให้หนังที่ถ่ายทำมาแล้วได้ฉาย แต่ทาง Warner Bros. เองก็ได้ออกมากล่าวว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการปรับตัวในสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ แต่มาตรการณ์นี้ก็เป็นแค่เรื่องชั่วคราว

Ann Sarnoff ซีอีโอและประธานของ Warner Bros. Pictures Group กล่าวให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ว่า “ไม่มีใครอยากจะให้หนังใหญ่ฉายในโรงไปมากกว่าพวกเราอีกแล้ว” ทำให้เราพอจะโล่งใจได้ว่าภาพยนตร์จะยังคงอยู่กับจอเงินไปอีกนาน

ที่มา – Washington Post

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

บาส รชต สนิท - นักข่าว นักเขียน ที่ Brand Inside | สนใจด้าน Future of Work, สิทธิคนทำงาน, สิ่งแวดล้อม, การเมืองโลก, ปัญหาทุนนิยม และ สิทธิมนุษยชน