หลังจากเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง Lazada ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์ม E-Commerce ในไทยก็เตรียมยกระดับความเข้มข้นในการทำตลาดด้วยการขยายธุรกิจ Fulfillment ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นด้วยพื้นที่กว่า 15 สนามฟุตบอลใน EEC
Fulfillment ที่มากกว่าคลังสินค้า
Lazada ให้บริการในประเทศไทยมาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยจากการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายเอง สู่การเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาใช้พื้นที่จำหน่าย รวมถึงการร่วมมือกับแบรนด์สินค้าต่างๆ เพื่อทำตลาดร่วมกัน ดังนั้นการมีคลังสินค้าขนาดใหญ่เพื่อคอยตอบโจทย์ในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะการทำ Fulfillment จึงจำเป็น
สนิฎา มานะกิจภิญโญ รองประธานอาวุโสฝ่ายคลังสินค้า และโครงสร้างพื้นฐาน Lazada เล่าให้ฟังว่า ศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าย่านบางพลีให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว โดยที่นี่มีพื้นที่ราว 24,000 ตร.ม. หรือ 5 สนามฟุตบอล และไม่ได้เป็นแค่คลังสินค้า แต่มีระบบต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ขายในระบบทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ในคลังสินค้านี้เรามีพนักงานประจำ 180 คน ทำงานเป็น 2 กะตั้งแต่ 8.00-23.00 น. แต่เวลามีแคมเปญลดราคา เช่น 11.11 จะเพิ่มพนักงานชั่วคราวเข้ามาจนรวมมีมากกว่า 400 คนเพื่อทำงานในคลังสินค้าแห่งนี้ เพราะนอกจากเราให้พวกเขาทำหน้าที่ตรวจรับสินค้าเข้ามาอยู่ในคลัง ยังจัดการแพ็คสินค้าเพื่อเตรียมส่งไปยังลูกค้าด้วย”
เทคโนโลยีสุดล้ำจาก Alibaba เข้าช่วย
นอกจากใช้คนจำนวนมาก Lazada ยังนำเทคโนโลยีจากบริษัทแม่อย่าง Alibaba เช่น Dabao ระบบจัดการคลังสินค้า และระบบตำแหน่งสินค้าเมื่อรับคำสั่งซื้อ รวมถึงระบบจัดการแรงงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานของพวกเขาให้ทำได้เต็มประสิทธิภาพ
“ถึงเราจะมีเทคโนโลยีล้ำๆ จากบริษัทแม่ แต่คนยังมีความสำคัญ เพราะด้วยต้นทุนแรงงานในประเทศไทย และการสเกลของเราอาจยังไม่เข้ากับการใช้งานหุ่นยนต์ ดังนั้นคลังสินค้าแห่งนี้จึงดำเนินการแบบ Semi-Automatic หรือผสานคน กับเทคโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกัน”
ทั้งนี้ขั้นตอนตั้งแต่สินค้าเข้ามาในคลังสินค้าแห่งนี้จะเริ่มด้วยพนักงานช่วยคัดแยกสินค้าเพื่อระบุประเภท ก่อนไปจัดเก็บในชั้นที่ระบบหลังบ้านกำหนดไว้ให้ หลังจากนั้นจะมีการทยอยตรวจเช็คสินค้าว่าครบหรือไม่โดยพนักงานเช่นกัน ส่วนการส่งสินค้าไปแพ็ค พนักงานจะหยิบ และใส่ตะกร้าที่วางบนสายพาน ก่อนส่งให้พนักงานแพ็ค และรอส่งต่อไป
ขยายไป EEC เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตามเพื่อการเติบโตในอนาคต Lazada เตรียมย้ายศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าไปที่ EEC โดยที่นั่นจะมีพื้นที่กว่า 15 สนามฟุตบอล และมีเทคโนโลยีต่างๆ จาก Alibaba เข้ามาใช้งานเพิ่มเติม ซึ่งมีแนวโน้มว่าตั้งแต่การกดซื้อสินค้าของร้านค้าที่เก็บสินค้าไว้ในคลังของ Lazada จะถูกแพ็คพร้อมส่งได้ต่ำกว่า 14 นาที่ที่เคยทำได้ตอนนี้
ในทางกลับกัน Lazada จะเร่งทำตลาดบริการ Fulfilled by Lazada หรือบริการที่ให้ผู้ขายสินค้านำสินค้ามาเก็บไว้ที่คลังสินค้าของ Lazada เพื่อให้ Lazada แพ็ค และเตรียมจัดส่งให้ โดยการคิดค่าบริการจะแบ่งเป็นค่าเช่าการเก็บสินค้า (คิดตามลบ.ซม.) และค่าแพ็คสินค้า (คิดตามชิ้น)
ปัจจุบันสินค้าที่อยู่ในคลังสินค้าย่านบางพลีของ Lazada ประกอบด้วยสินค้าของ 700 แบรนด์สินค้าที่จำหน่ายบน LazMall และสินค้าอีก 50,000 รายการจากสินค้าหลากหลายหมวดหมู่ที่ Fulfilled by Lazada ที่สำคัญคลังสินค้าในประเทศไทยใช้เวลาเร็วที่สุดในการรับคำสั่งซื้อจนถึงรอส่งสินค้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
สรุป
ต้องรอว่าคลังสินค้าใน EEC ของ Lazada จะเสร็จเมื่อไร และถึงเวลานั้นอุตสาหกรรม E-Commerce ในประเทศไทยก็คงยกระดับไปมากกว่านี้ เพราะเทคโนโลยีต่างๆ ของ Alibaba จะเพิ่มขึ้นแน่นอน และคงต้องดูว่าคู่แข่งในตลาดจะขยับตัวตาม Lazada อย่างไร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา