Walmart ขายหุ้น Seiyu ให้ KKR และ Rakuten เพราะค้าปลีกญี่ปุ่นแข่งหนัก

ด้วยการแข่งขันที่หนักหน่วง และอุตสาหกรรมค้าปลีกอยู่ในช่วงขาลง ทำให้ Walmart พยายามขายกิจการ Seiyu ค้าปลีกชั้นนำในญี่ปุ่น ซึ่งสุดท้ายแล้วก็สำเร็จ ผ่านทุนญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ 2 รายเข้ามาซื้อ

seiyu
ภาพจากเว็บไซต์ของ Walmart (https://corporate.walmart.com/photos/japan)

KKR และ Rakuten คือผู้รับไม้ต่อ

Walmart ได้แจ้งว่า บริษัทจะขายหุ้น 65% ใน Seiyu ให้กับ KKR หนึ่งในบริษัทลงทุนของญี่ปุ่น และอีก 20% ให้กับ Rakuten ยักษ์ใหญ่ในโลก E-Commerce ส่วนอีก 15% ที่เหลือ Walmart จะถือเอาไว้เหมือนเดิม โดยหากอ้างอิงจากข้อตกลงดังกล่าว มูลค่าของกิจการ Seiyu จะอยู่ที่ 1.72 แสนล้านเยน

ทั้งนี้มีการรายงานว่า Walmart ต้องการขายกิจการ Seiyu มาตั้งแต่ 2 ปีก่อน เพราะการแข่งขันของค้าปลีกในญี่ปุ่นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการตัดราคา ทำให้บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้อย่างที่ควรจะเป็น โดยตอนนั้น Walmart วางราคาของดีลขายกิจการนี้ไว้ที่ 3-5 แสนล้านเยน

ปัจจุบัน Seiyu มีหน้าร้านทั้งหมด 300 สาขา จ้างพนักงานราว 35,000 คน โดยจุดเริ่มต้นที่ Walmart เข้ามาในญี่ปุ่น เพราะ Seiyu กำลังประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2002 จึงยอมรับข้อตกลงด้านการลงทุนใน Walmart ผ่านการซื้อหุ้น 6% ก่อนที่ Walmart จะซื้อเพิ่มขึ้นจนครอบครองกิจการทั้งหมดในปี 2008

อย่างไรก็ตามดีลการขายหุ้น Seiyu ของ Walmart คาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2021 โดยหลังจากนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนเดิมจะอยู่ในตำแหน่งเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน ก่อนที่คณะกรรมการบริษัทจาก KKR, Rakuten และ Walmart จะตกลงกันเพื่อหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่

สรุป

ค้าปลีกญี่ปุ่นไม่ใช่ง่ายๆ เพราะมีทั้งกลุ่ม Aeon และ Seven & i Holdings ที่เป็นขาใหญ่ในตลาด และยังมีรายย่อยๆ ที่พร้อมตัดราคาคู่แข่งตลอดเวลา ดังนั้นต้องติดตามกันว่า Seiyu และ Walmart จะทำอย่างไรในตลาดญี่ปุ่นต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม // Seiyu เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายก็สู้การแข่งขันในตลาดนี้ไม่ไหว และถอยทัพออกไป

อ้างอิง // Bloomberg, Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา