Snapdeal หนึ่งในสองยักษ์ใหญ่ของวงการอีคอมเมิร์ซอินเดีย (อีกรายคือ Flipkart) กำลังเผชิญภาวะยากลำบาก จนต้องปลดพนักงานประมาณ 600 คน และสองผู้ก่อตั้ง Kunal Bahl กับ Rohit Bansal ประกาศไม่รับเงินเดือนในช่วงนี้
Snapdeal ก่อตั้งในปี 2010 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ตอัพยักษ์ใหญ่ของประเทศอินเดีย ถือเป็นบริษัทระดับ “ยูนิคอร์น” มีมูลค่าตามราคาหุ้นสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ มีนักลงทุนเป็นบริษัทระดับโลกอย่าง SoftBank, Foxconn และ Alibaba
สองผู้ก่อตั้งส่งจดหมายถึงพนักงาน ยอมรับว่าบริษัทเติบโตรวดเร็วเกินไป ทำหลายอย่างมากเกินไป และทำเรื่องผิดพลาดหลายอย่าง สองผู้ก่อตั้งยอมรับในความผิดพลาดนี้ และปลดพนักงานจำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (บริษัทไม่ระบุจำนวน แต่ CNN ได้ข้อมูลว่าปลด 600 รายจากพนักงานทั้งหมด 8,000 ราย)
ผู้ก่อตั้ง Snapdeal บอกว่าบริษัทขยายธุรกิจเร็วเกินไป ก่อนที่จะหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม รวมถึงขยายไปทำโครงการใหม่ๆ มากเกินไป จนไม่สามารถทำกำไรจากโครงการเหล่านี้ได้ และขยายจำนวนพนักงานมากเกินความจำเป็นของบริษัทในปัจจุบัน
ในจดหมายของ Snapdeal ระบุว่าบริษัทจะปรับโครงสร้างใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางออกของบริษัทไม่ต่างอะไรจากบริษัทอื่นๆ ที่เคยประสบปัญหาเดียวกันมาก่อน นั่นคือโฟกัสไปที่ธุรกิจหลักของตน หยุดงานอื่นๆ ที่ไม่สำคัญหรือไม่ใช่ธุรกิจหลัก ลดค่าใช้จ่ายลงให้เร็วที่สุดและกลับมาทำกำไรให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลหลุดออกมาว่าสองผู้ก่อตั้งประกาศไม่รับเงินเดือนทั้งหมด และเชิญให้ผู้บริหารระดับสูงลดเงินเดือนเป็นตัวอย่างด้วย
Snapdeal เคยประกาศไว้ว่าจะทำกำไรภายใน 2 ปี แต่ในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่หวัง ตลาดอีคอมเมิร์ซในอินเดียแข่งขันกันอย่างรุนแรง ผู้เล่นรายใหญ่อีกสองรายคือ Flipkart และ Amazon India ซึ่งทั้งหมดทำสงครามราคากันอย่างดุเดือด
ผลประกอบการของ Snapdeal ในปีงบประมาณ 2015-2016 มีรายได้ 14.5 พันล้านรูปี (ประมาณ 7 พันล้านบาท) เติบโต 56% แต่ขาดทุนหนักถึง 29.6 พันล้านรูปี (15 พันล้านบาท)
ที่มา – Economic Times, CNN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา