MG เปิดเกม Plug-in Hybrid ด้วยรถยนต์ SUV รุ่น MG HS PHEV ชูราคาเริ่ม 1.359 ล้านบาท

การสร้างความแตกต่างในตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะเรื่องราคา คือสิ่งที่ MG ทำมาตลอด และล่าสุดมันเกิดขึ้นอีกครั้งกับการเปิดตัว MG HS PHEV รถยนต์ C-SUV แบบ Plug-in Hybird รุ่นแรกของบริษัท และตลาดรถยนต์ไทย

mg hs phev

ราคาเริ่มต้น 1.359 ล้านบาท

การทำตลาด MG HS PHEV ของ MG เริ่มด้วยการทำราคาที่ 1.359 ล้านบาท ไม่มีรุ่นย่อย หรือเปรียบเป็นรุ่นสูงที่สุดของ MG HS โดยราคานี้ผู้ซื้อจะได้รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ความจุ 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า

ทั้งยังวิ่งได้ไกล 67 กม. หลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม ส่วนการตกแต่งภายในจะใกลเคียงกับ MG HS รุ่นปกติ แตกต่างกันเรื่องสีของห้องโดยสาร, หน้าปัดเรือนไมล์ที่แสดงผลบนหน้าจอขนาด 12 นิ้ว และระบบเสียง 8 ลำโพงของ Bose เป็นต้น โดย MG HS PHEV จะพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนพ.ย. เป็นต้นไป

mg hs phev

“ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไทยถูกครองด้วยแบรนด์ญี่ปุ่นถึง 90% แต่ตอนนี้ MG และแบรนด์จีนอื่นๆ เริ่มเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ เช่น MG สามารถขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด SUV ด้วยยอดขาย 11,181 คันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ผ่านการทำตลาด 2 รุ่นคือ MG HS และ MG ZS” จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าว

ตั้งเป้าขาย 800 คันภายในปีนี้

จากการวางราคา และความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid ทำให้ MG ตั้งเป้ายอดขาย MG HS PHEV ไว้ที่ 800 คันภายในสิ้นปี 2563 โดยเพื่อการจูงใจให้เกิดการซื้อรถยนต์ในช่วงนี้ MG จึงทำโปรโมชั่นต่างๆ เช่นการให้ MG Home Charger พร้อมติดตั้ง, ประกันแบตเตอรี่ 8 ปี และประกันคุณภาพรถยนต์ 4 ปี

mg hs phev

ขณะเดียวกัน MG เตรียมสถานีชาร์จไฟเป็น 500 จุดภายในปี 2564 ผ่านการทยอยติดตั้งในดีลเลอร์ MG ทั่วประเทศกว่า 150 แห่ง และเจรจากับพาร์ทเนอร์ธุรกิจต่างๆ เช่นค้าปลีก เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า MG ส่วนการติดตั้งสถานีชาร์จไฟในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างพิจารณา

“ด้วยรถยนต์ Plug-in Hybrid ทั้งหมดอยู่ในกลุ่มรถหรู ราคาตั้งแต่ 2.5-3.5 ล้านบาท และ C-SUV ในตลาดไทยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน, ดีเซล และไฮบริด ทำให้ MG HS PHEV แตกต่างทั้งราคา และสมรรถนะ ถือเป็นอาวุธหลักในการทำตลาดปีนี้ของเรา”

mg hs phev

ตลาดรถยนต์ปีหน้าฟื้นตัวแน่นอน

ในทางกลับกันด้วยภาพรวมตลาดรถยนต์ของประเทศไทยปี 2563 หดตัวอย่างรุนแรง เนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ทาง MG มองว่า การซื้อเริ่มกลับมา เช่นการทำแคมเปญการตลาดของรถกระบะรุ่น MG Extender ในเวลาดังกล่าวทำให้เกิดการเข้ามาซื้อรถยนต์รุ่นนี้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ใน 9 เดือนแรกของปี 2563 ทาง MG ได้จำหน่ายรถยนต์ไป 18,699 คัน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น MG 3 3,400 คัน, MG ZS, 7,688 คัน, MG ZS EV 377 คัน, MG HS 3,982 คัน และ MG Extender 3,809 คัน

mg hs phev

“ผมเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถยนต์ในช่วงปลายปีนี้ ประกอบกับในปี 2564 ปัจจัยลบต่างๆ น่าจะเริ่มดีขึ้น และ MG ก็พร้อมที่จะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นเดียวกับที่เราเคยทำมาในช่วงก่อนหน้านี้” จาง ไห่โป กล่าวทิ้งท้าย

สรุป

ถือเป็นการเขย่าตลาดอีกครั้งของ MG เพราะ MG HS PHEV ทำราคาออกมาได้จูงใจ และคนที่หนักใจที่สุดคงไม่พ้น Toyota Corolla Cross ที่มีราคา และขนาดของรถยนต์ชนกันตรงๆ ดังนั้นก็ต้องวัดใจกันว่า ผู้บริโภคจะเชื่อในความเก่าแก่ของญี่ปุ่น หรือหน้าใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจากจีน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา