ปัจจุบันหลายธุรกิจเริ่มหันมาใช้งานเครื่อง POS ที่สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ และหนึ่งในผู้นำตลาดนี้อย่าง Sunmi จึงประกาศเข้ามาลุยตลาดนี้ด้วยตัวเอง พร้อมตั้งเป้ายอดขายปี 2564 กว่า 300 ล้านบาท
Food Delivery คือตัวขับเคลื่อนหลัก
Phakhin Peng ผู้จัดการทั่วไปของ Sunmi Thailand เล่าให้ฟังว่า การบุกตลาดของ Sunmi ในประเทศไทยเริ่มมาตั้งแต่ 4 ปีก่อน ผ่านการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Food Delivery และร้านอาหารที่ต้องการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบมากขึ้น
“กลุ่มธุรกิจ Food Delivery คือลูกค้าหลักของเรา เพราะตัวเครื่อง Sunmi สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวก ทำให้ร้านอาหารสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ทันที นอกจากนี้ธุรกิจอื่นๆ เริ่มหันมาใช้ POS ของเรามากขึ้นด้วย เช่นกลุ่มค้าปลีกต่างๆ”
หากนับถึงปัจจุบันจำนวนเครื่อง POS ที่ทำตลาดโดยตัวแทนจำหน่ายของ Sunmi ในประเทศไทยมีทั้งหมด 1 แสนเครื่อง แบ่งเป็นแบบตั้งโต๊ะ (Desktop) 40,000-50,000 ตัว และแบบพกพา (Hand Held) 70,000-80,000 ตัว มีระดับราคาตั้งแต่ 800-20,000 บาท
รองรับการเติบโตด้วยการเข้ามาทำเอง
“ตั้งแต่ 4 ปีก่อนเป็นผมที่นำ Sunmi เข้ามาทำตลาดผ่านการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องในประเทศไทย แต่ด้วยการเติบโตของตลาดที่มากขึ้น ทำให้ Sunmi ประกาศแผนเข้ามารุกตลาดนี้ด้วยตัวบริษัทเอง โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป”
สำหรับการเข้ามาทำตลาดเองของ Sunmi จะเพิ่มจากมีแคู่ศนย์บริการ เป็นมี Innovation Center, คลังสินค้าที่ใหญ่มากขึ้น รวมถึงบริการสินเชื่อรูปแบบต่างๆ เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึง Sunmi ได้ง่ายขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทคือองค์กรขนาดใหญ่ ส่วนลูกค้าผู้บริโภคทั่วไปมีแค่ยอดขายราว 100 เครื่องเท่านั้น
วางเป้า 30,000 ตัว 300 ล้านบาท
จากการเข้ามาทำตลาดเองนี้ Sunmi ประเทศไทยวางเป้ายอดขายที่ 30,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 300 ล้านบาท โดยจุดเด่นของ Sunmi คือการออกแบบที่แตกต่างจากคู่แข่ง เน้นที่ความสวยงาม แต่ใช้งานได้จริง เนื่องจากเครื่อง POS ส่วนใหญ่มีความสามารถใกล้เคียงกัน ดังนั้นการสร้างความแตกต่างเรื่องดีไซน์จึงสำคัญ
สรุป
อนาคตของเครื่อง POS ที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นต่างๆ จะเติบโตอย่างแน่นอน เพราะการใช้เครื่อง POS ที่มีความสามารถแค่คิดเงิน และทำบัญชีเบื้องต้นอาจไม่ตอบโจทย์แล้ว ยิ่งต้นทุนของเครื่อง POS แบบใหม่ลดลงเรื่อยๆ ก็ไม่แปลกที่ Sunmi จะสามารถเติบโตในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา