เปิดกลยุทธ์ใหม่ของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ปรับตัวเป็นเรสซิเดนซ์ ที่พักอาศัยให้เช่าระยะยาวกลางเมือง จับกลุ่มนักธุรกิจข้ามชาติ นักการทูต และคนไทย มีสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการครบครันในราคา 50,000-80,000 ต่อเดือน
อาทร วนาสันตกุล กรรมการผู้จัดการของ MBK Hotel and Tourism เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เป็นโรงแรม 5 ดาวในเครือ MBK Group ที่โดยในช่วงปกติจะมีแขกที่เป็นนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวเข้าพักประมาณ 80-90% และเพื่อเป็นการดำเนินธุรกิจให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงได้มีการเปิดตัวบริการใหม่ ที่มีชื่อว่า “ปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์” ให้บริการที่พักระยะยาว มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย นักธุรกิจชาวไทยที่ต้องการที่พักใกล้ที่ทำงาน นักการทูต และนักศึกษาที่ต้องการที่พักใกล้มหาวิทยาลัย
โดยคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์ เหล่านี้ มักเช่าคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูง แต่ไม่มีการให้บริการแบบที่โรงแรม 5 ดาวมี
พักยาวเหมือนอยู่คอนโด แต่มีบริการครบแบบโรงแรม 5 ดาว
ปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์ ชูจุดเด่นที่กลายเป็นข้อได้เปรียบเหนือการเช่าคอนโดมิเนียมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ การเช่าคอนโดกลางเมืองมีราคาค่อนข้างสูง แต่ไม่มีบริการเสริมใดๆ เลย แต่ ปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์ มีข้อได้เปรียบสำคัญ คือ บริการแบบโรงแรม 5 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมสถานที่ตั้งของโรงแรมก็อยู่กลางเมือง เดินทางสะดวก
โดยบริการต่างๆ ของ ปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์ ได้แก่ บริการทำความสะอาด 2 ครั้งต่อสัปดาห์, ส่วนลดค่าบริการซักรีด 50%, สิทธิ์ในการใช้คลับเลานจ์ได้ 4 ครั้งต่อเดือน, ฟิตเนส, บริการเชฟทำอาหารส่วนตัวโดยมีค่าบริการเพิ่มเติม, ส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มที่ห้องอาหารของโรงแรม 25%, บริการรถลีมูซีน ไป-กลับสนามบิน 1 ครั้งต่อปี, ที่จอดรถฟรี 1 คัน
ปทุมวัน ปริ๊นเซส เรสซิเดนซ์ มีห้องพักให้เลือก 2 ขนาด สำหรับเข้าพักได้ 1 คน หรือ 1 คู่ คือ 1 ห้องนอน พื้นที่ 72 ตารางเมตร ราคา 50,000 บาทต่อเดือน และ ห้องชุดสวีท เหมาะสำหรับพักเป็นครอบครัว พื้นที่ 102 ตารางเมตร ราคา 80,000 บาทต่อเดือน โดยราคานี้รวมค่าไฟฟ้า ค่าน้ำปะปา และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแล้ว
สรุป
กลยุทธ์ของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ที่เปลี่ยนโรงแรมที่มีแขกเข้าพักลดลงจากสถานการณ์ปัจจุบัน ให้กลายเป็นเรสซิเดนซ์ หรือที่พักระยะยาวนับว่ามีความน่าสนใจ เพราะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจ และนักการทูต มักเช่าคอนโดมิเนียมกลางเมือง ที่มีราคาใกล้เคียงกันอยู่แล้ว แต่ไม่มีบริการเสริมอื่นๆ แบบที่โรงแรม 5 ดาวมี ประกอบกับค่าน้ำปะปา ค่าไฟฟ้า และค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ก็ยังไม่ได้รวมอยู่กับค่าเช่าด้วย ดังนั้นการเลือกพักอาศัยระยะยาวในโรงแรม ที่มีบริการแบบครบครัน ก็อาจตอบโจทย์ และคุ้มค่าในมุมมองของกลุ่มเป้าหมายมากกว่า
ที่มา – ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา