Euben Paracuelles หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์แห่งอาเซียน จาก Nomura มองว่า แม้หลายประเทศจากกลุ่มอาเซียนจะจัดการโควิด-19 ได้ดี ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคระบาดได้ แต่เศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในลักษณะ U-shape เนื่องจากความไม่แน่นอนยังมีอยู่เต็มไปหมด จึงมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะแย่ลง
ทั้งนี้ มีการอ้างรายงานจาก UNCTAD (การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา: อังค์ถัด: United Nations Conference on Trade and Development) ได้ระบุว่าไทยน่าจะได้รับผลกระทบหนักสุดจากการท่องเที่ยวที่ย่ำแย่ ไทยอาจจะมี GDP ติดลบ 9% หรือราว 4.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.47 ล้านล้านบาท
ก่อนที่โลกจะต้องเผชิญกับโควิด-19 ไทยก็มีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่ง UNCTAD ระบุว่าภาคการท่องเที่ยวโลกจะสูญเงินราว 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 37 ล้านล้านบาท หรือ 1.5% ของ GDP โลก
ขณะที่ไทยก็เป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักพอๆ กับจาไมกาซึ่งติดลบ 11% ของ GDP ไทยติดลบ 9% ของ GDP
ด้านสิงคโปร์นั้น แม้ว่าจะมีการปลดล็อคหรือผ่อนคลายล็อคดาวน์บางส่วนแล้ว แต่การระบาดอีกครั้งของโควิด-19 ก็ทำให้กระทบต่อความต้องการสินค้าและบริการในต่างประเทศลดลงไปด้วย แน่นอนว่า สิงคโปร์ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเพราะพึ่งพาความต้องการภายนอกประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอย่างอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังไม่สามารถควบคุมหรือจัดการโควิด-19 ได้ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบหนักจากเศรษฐกิจที่แย่ตามๆ กันไปด้วย โดยอินโดนีเซียนั้น GDP ติดลบที่ 5.3% ซึ่งถือว่าหดตัวมากสุดในรอบกว่า 20 ปี ถ้ายังไม่หยุดใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มข้น ก็จะส่งผลลบทางเศรษฐกิจไปด้วย
ขณะที่ฟิลิปปินส์ก็ GDP ติดลบมากถึง 16.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ Paracuelles ระบุว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่ได้ใช้จ่ายเงินมากพอๆ กับประเทศอื่นในภูมิภาคที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือผลักดันได้ในทันทีก็อาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ธุรกิจต่างๆ จะยิ่งประสบความไม่แน่นอนสูง และสุดท้ายมันก็จะนำไปสู่ภาวะชะงักงันในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ที่มา – CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา