Bill Gates มหาเศรษฐีนักธุรกิจชื่อดังผู้ก่อตั้ง Microsoft กลายเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ให้ความสนใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในระยะยาว
แต่ไม่ใช่แค่การพัฒนาวัคซีนเท่านั้นที่มีความสำคัญกับสถานการณ์โควิด-19 เพราะการหายารักษาเพื่อลดอัตราการการเสียชีวิตก็มีความสำคัญเช่นกัน ตราบใดที่โลกยังหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดด้วยวัคซีนไม่ได้ ก็ยังมีผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน ซึ่ง Bill Gates คาดการณ์ว่า ภายในปีนี้น่าจะมียารักษาที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ โดย Gates ตั้งความหวังไว้กับยาต้านไวรัส Remdesivir ที่มีผลการทดลองสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ถึง 62% เทียบกับการดูแลผู้ป่วยธรรมดาเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ยังมียาอีก 2 ชนิดที่อยู่ระหว่างทำการทดสอบโดยนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งข้อดีของยาทั้งสองชนิดนี้คือ สามารถรับประทานเข้าไปได้ โดยไม่ต้องใช้การฉีดแต่อย่างใด
ในเดือนกุมภาพันธ์มูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation เคยประกาศว่าจะบริจาคเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.12 พันล้านบาท ให้กับหน่วยงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวัคซีนและวิธีการรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้บริษัทและหน่วยงานหลายแห่งทั่วโลก กำลังเร่งพัฒนาวัคซีน โดยกระบวนการพัฒนาวัคซีนบางแห่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองในคน และคาดว่าจะได้รับการอนุญาตและรับรองภายในสิ้นปี 2020 นี้
อย่างไรก็ตามอีกสิ่งที่ Bill Gates กังวล คือ ต้องมีการเชิญชวนให้คนไปฉีดวัคซีน ในวันที่มีวัคซันพร้อมใช้แล้วด้วย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ต้องแจ้งกับประชาชนให้รับทราบด้วยว่า การพัฒนาวัคซีนมีมาตรฐานความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ และกระบวนการพัฒนาไม่ได้ข้ามขั้นตอนให้สามารถผลิตวัคซีนได้เร็วๆ แต่อย่างใด
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา