COVID-19 ทำให้หลายธุรกิจลำบาก ล่าสุดคือ Dyson ที่ต้องปลดพนักงาน 900 คนทั่วโลกเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรให้คล่องตัว และผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อการอยู่รอดขององค์กร
แผนการปลดพนักงานครั้งนี้จะแบ่งเป็นพนักงานในสหราชอาณาจักร 600 คน และ 300 คนทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในแผนกค้าปลีก และดูแลกลูกค้า เพราะ Dyson ใช้พนักงานของตัวเองในการจำหน่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ในช่วง COVID-19 ผู้บริโภคเริ่มไปซื้อสินค้าออนไลน์ และเริ่มมองข้ามการไปซื้อสินค้าตามช่องทางดั้งเดิม
ปัจจุบัน Dyson มีพนักงานทั่วโลก 14,000 คนทั่วโลก ในนั้นมี 4,000 คนทำงานที่สหราชอาณาจักร เพราะที่นั่นเป็นฐานการวิจัย และพัฒนาสินค้า ส่วนการผลิตจะกระจายไปในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย นอกจากนี้ Dyson ยังทำตลาดใน 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งพนักงานกลุ่มข้างต้นจะได้รับผลกระทบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม Dyson จะดูแลพนักงานกลุ่มนี้อย่างดี และให้ความเป็นธรรมที่สุด ที่สำคัญทางโฆษกของ Dyson ออกมาชี้แจงว่า COVID-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงมากมาย และบริษัทต้องเปลี่ยนแปลงให้ทัน ซึ่งหลังจากนี้ Dyson จะพยายามเข้าถึง และจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคได้เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ Dyson เริ่มปรับกลยุทธ์ธุรกิจมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หลังประกาศกลยุทธ์อย่างยิ่งใหญ่ และวางแผนตั้งโรงงานที่ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงการพยายามทำตลาดออนไลน์มากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค และชูนวัตกรรมเพื่อจูงใจในการซื้อสินค้า
สรุป
การปรับโครงสร้างขององค์กรมีความจำเป็นระหว่าง COVID-19 เพราะหากยังทำเหมือนเดิมอยู่ โอกาสที่ธุรกิจจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพน่าจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการที่ Dyson ตัดสินใจปรับตัวด้วยการปลดพนักงาน ก็น่าจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ และผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
อ้างอิง // BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา