SoftBank แจ้งกับนักลงทุนว่าบริษัทได้ขายหุ้นของ T-Mobile มูลค่า 674,000 ล้านบาท เพื่อระดมเงินสดช่วง COVID-19 และอีกส่วนนำไปใช้ลดหนี้ของบริษัท
SoftBank Group ได้แจ้งกับนักลงทุนว่า บริษัทได้ตัดสินใจขายหุ้น T-Mobile ซึ่งเป็น 1 ในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สัดส่วน 5% มูลค่ากว่า 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 674,000 ล้านบาท สำหรับเม็ดเงินที่ได้นั้นจะนำไปใช้หนี้บางส่วน ใช้ซื้อหุ้นของบริษัท รวมไปถึงเก็บเป็นกระแสเงินสด หลังจากบริษัทมองว่า COVID-19 อาจมีการระบาดรอบที่ 2 ส่งผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจของบริษัท
- SoftBank ขาดทุน 414,700 ล้านบาท CEO ยอมรับลงทุนใน WeWork เป็น “ความโง่” ของตัวเอง
- SoftBank เตือน Grab และสตาร์ทอัพอื่นๆ ระวังสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจากวิกฤตโควิด-19
สำหรับหุ้น T-Mobile ที่ SoftBank Group มีอยู่นั้นเกิดจากการควบรวมกิจการของ Sprint ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SoftBank กับทาง T-Mobile ด้วยวิธีแลกหุ้น หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลได้อนุมัติดีลดังกล่าว ทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเหลือเพียง 3 เจ้าใหญ่เท่านั้น
การขายหุ้น T-Mobile เป็น 1 ในแผนของ SoftBank ที่ต้องการจะลดหนี้ของบริษัทลง รวมไปถึงทำตามข้อเรียกร้องของนักลงทุนที่ต้องการให้บริษัทซื้อหุ้นคืน โดยแผนการของบริษัทคือขายสินทรัพย์ที่ลงทุนไว้มูลค่าถึง 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เม็ดเงินที่ได้หลังจากการขายหุ้น T-Mobile บริษัทจะนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและคุณภาพสูง ก่อนที่จะมีการใช้เม็ดเงินดังกล่าว ขณะที่หุ้นของทาง T-Mobile นั้น ล่าสุด บอร์ดบริหารของ T-Mobile ซึ่งเป็นอดีต CEO ของ Sprint เองอย่าง Marcelo Claure สนใจที่จะซื้อหุ้นบางส่วนด้วย
สำหรับวิกฤติของ SoftBank เองมีปัญหาจากผลขาดทุนของ Vision Fund หลังบริษัทต่างๆ ที่กองทุนได้ลงทุนมีผลตอบแทนติดลบ โดยเฉพาะ Uber บริการเรียกรถและส่งอาหารรายใหญ่ รวมไปถึง WeWork ซึ่งกองทุนได้ลงทุนไปด้วยเม็ดเงินหลักหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันบริษัทเองยังมีหนี้สินที่สูง ทำให้ต้องมีการทยอยขายสินทรัพย์ออกมา
ที่มา – CNN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา