การระบาดของโรค COVID-19 ที่ยังไม่สิ้นสุดในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจต่างได้รับผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo ที่แจ้งว่า ในเดือนเม.ย. สาขาของ Uniqlo ทำยอดขายลดลงถึง 56.5%
ลดลงมากที่สุดตั้งแต่เก็บสถิติ
การมียอดขายลดลง 56.5% ในเดือนเม.ย. ของสาขา Uniqlo ทั้งหมด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการหดตัวของยอดขายที่มากที่สุดนับตั้งแต่บริษัทเก็บสถิติเมื่อปี 2539 แสดงให้เห็นถึงปัญหาของการทำธุรกิจระหว่างการระบาดของโรค COVID-19 ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ระหว่างวิกฤต COVID-19 ทาง Fast Retailing ต้องปิดสาขา Uniqlo ถึง 331 แห่งจากทั้งหมด 800 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้อีก 299 สาขา ยังต้องลดระยะเวลาในการเปิดให้บริการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้วย
ในทางกลับกัน Uniqlo ยังมียอดขายต่อลูกค้าต่อคนเพิ่มขึ้น 10.4% ในเดือนเม.ย. เพราะสินค้าเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนยังมีความต้องการสูง แต่ถึงอย่างไร Fast Retailing ก็เตรียมปรับเป้าหมายรายได้ในปีงบประมาณ 2563 ที่จะสิ้นสุดเดือนส.ค. 2563 นี้
สำหรับรายละเอียดในการปรับลดจะมีตั้งแต่ ยอดขายที่ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า เหลือ 2.09 ล้านล้านเยน (ราว 6.33 แสนล้านบาท) ส่วนกำไรสุทธิจะลดลง 38.5% เหลือ 1 แสนล้านเยน (ราว 30,300 ล้านบาท)
สรุป
กลายเป็นปีที่ยากลำบาดของหลายธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นทันที เพราะการระบาดของโรค COVID-19 ยังไม่จบลงง่ายๆ ดังนั้นคงต้องติดตามต่อไปว่า Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo จะเดินหมากอย่างไร เพื่อประคองธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้ได้
อ้างอิง // Japan Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา