การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนัก ธุรกิจหลายชนิดไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ บางแห่งถึงกับขนาดต้องให้พนักงานหยุดงานชั่วคราวโดยไม่จ่ายเงินเดือน หรือแม้แต่ปลดพนักงานก็มี
จากสถิติขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พบว่าแรงงานทั่วโลกกว่า 2.7 พันล้านคน หรือประมาณ 81% ของแรงงานทั้งหมด ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ที่ตกงาน หรือต้องหยุดงานชั่วคราวเป็นจำนวนมากกว่า 26 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2009
ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์เรียนออนไลน์อย่าง Coursera ได้เปิดให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบตกงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถเข้าถึงคอร์สเรียนกว่า 3,800 คอร์สบนเว็บไซต์ Coursera ได้แบบฟรีๆจากที่ปกติผู้ที่สนใจเรียนต้องเสียค่าใช้จ่าย 399 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 12,967 บาท โดยใช้ชื่อโครงการว่า Coursera Workforce Recovery Initiative
โครงการ Coursera Workforce Recovery Initiative นี้ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปที่กำลังตกงานลงทะเบียนรับสิทธิด้วยตัวเอง แต่ต้องให้หน่วยงานของรัฐบาลที่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับผู้ตกงานเป็นคนลงทะเบียนรับสิทธิแทน โดยหน่วยงานของรัฐต้องลงทะเบียนภายในวันที่ 30 กันยายน และผู้เรียนจะได้รับสิทธิเข้าถึงคอร์สเรียนกว่า 3,800 คอร์สแบบฟรีๆ จนถึงสิ้นปี 2020 นี้
ส่วนใครที่กังวลว่าโครงการนี้จะจำกัดให้ลงทะเบียนเฉพาะหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโครงการนี้เปิดให้กับหน่วยงานรัฐบาลทั่วโลกที่มีความสนใจสามารถร่วมลงทะเบียนได้ฟรี ซึ่งในขณะนี้มีหน่วยงานรัฐบาลจากหลายๆ ประเทศลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิให้คนตกงานที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไปแล้ว ได้แก่ ประเทศโคลัมเบีย คอสตาริกา กรีซ มาเลเซีย ปานามา ยูเครน และอุซเบกิสถาน ซึ่งรัฐบาลในประเทศเหล่านี้จะสามารถแจกจ่ายคอร์สเรียนฟรีให้กับผู้ที่กำลังตกงานต่อไป
ซึ่งที่ผ่านมา Coursera ก็เคยเปิดให้ผู้ที่มีความสนใจเรียนฟรีในหลายคอร์สเช่นเดียวกัน แต่ผู้เรียนจะไม่ได้ใบประกาศนียบัตรรับรอง (Certificate) แต่อย่างใด แต่ในโครงการ Coursera Workforce Recovery Initiative นี้ Coursera ต้องการช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกงาน จึงมอบประกาศนียบัตรให้ผู้ที่เรียนจบคอร์สแบบฟรีๆ เพื่อสนับสนุนเป็นทักษะติดตัวสำหรับประกอบอาชีพต่อไป
(สำหรับผู้ที่มีความสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Coursera)
ที่มา – Gizmodo, Forbes, ILO, The Verge, cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา