ราคาน้ำมันดิบล่าสุดกลับมาเพิ่มขึ้นสูงถึง 22% หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมากล่าวถึงการที่สหรัฐอเมริกาได้พูดคุยกับซาอุดิอาระเบียรวมไปถึงรัสเซีย เพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง
ราคาน้ำมันดิบ West Texas ในช่วงการซื้อขายวันนี้กลับมาบวกถึง 22.11% ราคาล่าสุดอยู่ที่ 24.80 เหรียญต่อบาร์เรล สาเหตุมาจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ออกมากล่าวถึงการที่สหรัฐอเมริกาได้พูดคุยกับซาอุดิอาระเบียรวมไปถึงรัสเซีย โดยหวังว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงมาสูงสุดถึง 10 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐเชื่อว่าอาจลดกำลังการผลิตได้มากกว่านี้
- ราคาน้ำมันดิบทำสถิติต่ำสุดเหลือ 19.92 เหรียญ หลัง COVID-19 สะท้อนความต้องการลดลง
- ซาอุฯ เตรียมตัดราคาน้ำมันดิบสู้กับรัสเซียลงมาเหลือ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียได้ออกมากล่าวว่าจะกลับเข้ามาสู่การเจรจาอีกครั้ง ส่งผลทำให้ภายในช่วงการซื้อขายน้ำมันดิบในวันนี้ราคาได้กระโดดไปถึง 30% ถือว่าเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นสูงสุดของวันนับตั้งแต่มีการซื้อขายน้ำมันดิบเป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้นั้นสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเกิดขึ้นจาก ซาอุดิอาระเบียได้ขอให้รัสเซียลดกำลังการผลิตซึ่งจะหมดข้อตกลงที่ทำกับกลุ่ม OPEC ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่รัสเซียปฏิเสธเงื่อนไขในการที่จะลดกำลังการผลิต และยังได้กล่าวว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าเดิม ส่งผลทำให้ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตรวมไปถึงตัดราคา เพื่อที่จะกดดันให้รัสเซียกลับเข้ามาเจรจา
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในรอบเกือบๆ 20 ปี โดยราคาในช่วงเดือนมกราคมราคายังอยู่ในช่วง 60 เหรียญต่อบาร์เรล แต่หลังจากศึกการตัดราคาน้ำมันนั้นทำให้ราคาลงมาแตะระดับต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐ ส่งผลทำให้ราคาถือว่าจูงใจให้โรงกลั่นในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจากจีนและอินเดียที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก มาสนใจราคาน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียทันที แต่ส่งผลเสียกับผู้ส่งออกน้ำมันจากประเทศอื่นๆ รวมไปถึงผู้ผลิตในสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ต่ำ
Just spoke to my friend MBS (Crown Prince) of Saudi Arabia, who spoke with President Putin of Russia, & I expect & hope that they will be cutting back approximately 10 Million Barrels, and maybe substantially more which, if it happens, will be GREAT for the oil & gas industry!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) April 2, 2020
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา