บราเดอร์ มั่นใจตลาดเครื่องพิมพ์ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าโตเรื่องรายได้เพิ่มอีก 5% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว รุกช่องทางใหม่ๆ ทั้ง กลุ่มโรงพยาบาล สถานศึกษา กลุ่มธุรกิจองค์กร แจงยังเป็นกลุ่มที่ใช้งานเครื่องพิมพ์เป็นหลัก พร้อมเร่งขยายศูนย์บริการไปยัง สปป.ลาว บุกตลาดใหม่ๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ที่มีการรุมเร้าจากปัญหาต่างๆ ทั้งด้านสงครามการค้า แม้กระทั่งล่าสุดปัญหาไวรัส COVID-19 แต่ทาง Brother ได้มีการตั้งเป้าถึงรายได้ของปีงบประมาณ 2020 โตขึ้นเพิ่ม 5% จากปีงบประมาณ 2019 จากการที่ทาง Brother เองได้ทำการทรานส์ฟอร์มองค์กรเองใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Business transform, Operational Transform และ Talent Transform ด้วยกลยุทธ์ ‘3C’ มุ่งโฟกัส Customer (ลูกค้า) Channel Partner (ช่องทางการจัดจำหน่าย) ไปจนถึง Company (ตัวองค์กร)
“ตลาดใหม่ๆ ที่เราให้ความสำคัญในปีนี้ เน้นหนักที่กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มสถาบันการศึกษา, กลุ่มธุรกิจองค์กร และเน้นเพิ่มเติมไปยังกลุ่ม SME ที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีก”
ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าของบราเดอร์กว่า 60% เป็นกลุ่มลูกค้า SME และ กลุ่มคอร์ปอเรท กลุ่มเครื่องพิมพ์เลเซอร์ยังเป็นสินค้าแฟลกชิป (แหล่งข้อมูลจาก GFK) โดยบราเดอร์ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มโมโนเลเซอร์พรินเตอร์ ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 38%, กลุ่มโมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์ ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 56% และกลุ่มคัลเลอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด 33% ด้านกลุ่มอิงค์เจทพรินเตอร์ บราเดอร์ยังเกาะกลุ่ม 1 ใน 3 ผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 17%
“จากปัญหาไวรัส COVID-19 ที่กำลังมีการระบาดอยู่ในขณะนี้ บราเดอร์ มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เพราะสินค้าที่เรามีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ทั้งเครื่องพิมพ์ จักรเย็บผ้า ระบบเครื่องเสียงคาราโอเกะ เครื่องพิมพ์ฉลาก และสแกนเนอร์ สามารถหาซื้อในช่องทางออนไลน์แทนได้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทดแทนช่องทาง Traditional Channel ที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้”
พัฒนาบริการหลังการขายให้แข็งแกร่ง พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง สปป.ลาว
วรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มเติมว่า ในปีนี้ บราเดอร์ ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เปิดโอกาสให้สามารถซื้อ การขยายระยะเวลารับประกัน และเพิ่มบริการพิเศษพร้อมตัวเครื่องได้ตามความต้องการ ทั้งรูปแบบนำเครื่องเข้าศูนย์บริการและการบริการซ่อมนอกสถานที่ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนาระบบ chatbot พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมงเต็มรูปแบบซึ่งคาดว่าจะนำมาใช้ในช่วงต้นปี 2564 พร้อมกันนี้ ยังได้พัฒนาแอพลิเคชั่น Brother Support Center ที่รวบรวมข้อมูลสินค้า คู่มือการใช้งาน การตรวจสอบสถานะเครื่อง และข้อมูลศูนย์บริการบราเดอร์ทั่วประเทศ พร้อมทั้งสามารถใช้เป็นช่องทาง Brother Live Chat เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
ด้านศูนย์บริการขยายครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ล่าสุดได้เปิดศูนย์บริการในประเทศลาวที่เวียงจันทน์ พร้อมมีแผนเปิดศูนย์บริการอีก 2 แห่ง ทั้งที่หลวงพระบางและสะหวันนะเขต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา