มุมมองของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลังจากที่ดัชนีหุ้นไทยตกลงถึง 2.2% เน้นย้ำว่าไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ Circuit Breaker นอกจากนี้ยังแนะนำให้นักลงทุนนั้นกระจายการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลง จนทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ว่า ตลาดหุ้นไทยหลังจากการปิดการซื้อขายในเช้านี้ ได้ลดลงใกล้เคียงกับตลาดหุ้นอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฯลฯ โดยสำหรับเรื่องของไวรัส COVID-19 นั้นบางประเทศในยุโรปก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นอยากให้รอดูตลาดหุ้นในทวีปยุโรปด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังเชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ้าหากมีผู้ติดเชื้อจำนวนลดลงก็อาจช่วยหนุนให้สภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้แนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และมองว่าในทุกวิกฤตินั้นมีโอกาสเสมอๆ รวมไปถึงนักลงทุนจะต้องวิเคราะห์ข่าวสารให้ดีและระวังเรื่อง Fake News
ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมีความกังวลว่าตลาดหุ้นไทยอาจมีการหยุดซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว หรือ Circuit Breaker นั้น ภากร มองว่าตลาดหุ้นของไทยผ่านช่วงเวลาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น OPEC ลดกำลังการผลิตน้ำมัน เรื่องวิกฤตินายพลของอิหร่านถูกสหรัฐสังหาร ไวรัส COVID-19 หรือแม้แต่ล่าสุดเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป ก็ไม่ต้องใช้มาตรการนี้แต่อย่างใด
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังได้กล่าวถึงการเตรียมแผนสำรองรองรับในสภาวะฉุกเฉิน (Business Continuity Planning) เช่น การแยกพนักงานที่ต้องพบลูกค้ากับพนักงานที่เป็นฝ่ายดำเนินการ เช่น ฝ่ายไอที ฯลฯ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าหากเกิดเหตุขึ้นมาตลาดหลักทรัพย์ก็ยังสามารถดำเนินการต่อได้ นอกจากนี้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังได้เน้นถึงความสำคัญของระบบ E-Meeting, E-Voting ฯลฯ ว่ามีความจำเป็นในสถานการณ์หลังจากนี้
ล่าสุดการดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซื้อขายที่ 1,457.92 จุด ลดลงไป 37.17 จุด คิดเป็น –2.49% ขณะที่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทวีปยุโรปล่าสุดดัชนี DAX ของเยอรมันลดลงไป 3.21% ดัชนี CAC40 ของฝรั่งเศส ลดลงไป 3.12% ดัชนี FTSE 100 ลดลงไป 2.6%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา