แม้จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์หรูเบอร์หนึ่งของโลก แต่ Mercedes-Benz ก็เตรียมปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ เพราะต้องการควบคุมต้นทุน หลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และการควบคุมมลพิษที่เข้มข้นขึ้นทำให้ต้นทุนต่างๆ เพิ่ม
ต้นทุนเพิ่มทำฝ่ายบริหารใจระส่ำ
ก่อนหน้านี้ Mercedes-Benz ก็สามารถทำตลาดรถยนต์หรูได้อย่างสบายๆ แม้จะมีคู่แข่งร่วมชาติอย่าง BMW และ Audi คอยไล้จี้ตลอดเวลา แต่สุดท้ายแล้วการเดินหน้าธุรกิจก็เริ่มยากขึ้น เพราะรถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ รวมถึงมาตรการควบคุมมลพิษของกลุ่มประเทศยุโรปเริ่มเข้มข้นขึ้น
เช่นในปี 2564 รถยนต์ที่จำหน่ายในกลุ่มประเทศยุโรปต้องมีค่าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับปี 2550 และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ หลังจากนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าว Mercedes-Benz ต้องลงทุนวิจัย และพัฒนามากขึ้น เพื่อผลิตรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว เช่นเดียวกับกรณีรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อเป็นอย่างนี้ Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ก็ประกาศเรื่องสำคัญนั่นคือ เตรียมปรับลดพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 1,000 ล้านยูโร (ราว 33,000 ล้านบาท) ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดว่าตำแหน่งใดจะถูกเลิกจ้างนั้นยังไม่ประกาศออกมา แต่เชื่อว่าฝ่ายบริหารคือหนึ่งในนั้น
“เราต้องการประหยัดต้นทุนมากกว่า 1,500 ล้านยูโรป (ราว 50,000 ล้านบาท) ให้กับทั้งกลุ่ม ซึ่ง Mercedes-Benz ก็คือหนึ่งในนั้น มันจึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เพื่อให้ภาพรวมของทางกลุ่ม Daimler ในอนาคตยังเติบโตอย่างยั่งยืน” Ola Källenius ประธานคณะกรรมการบริหาร ของ Daimler กล่าว
สรุป
ต้นทุนเรื่องวิจัย และพัฒนาในอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้นอัตโนมัติ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีล้ำๆ ไหนจะเรื่องรถยนต์ที่ต้องปล่อยมลพิษลดลงด้วย จึงไม่แปลกที่ Mercedes-Benz จะเดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง // BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา