ตอนนี้ข้อมูล หรือ Data สำคัญขึ้นเรื่อยๆ เพราะหากเอาไปวิเคราะห์อย่างถูกต้อง ก็สร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ ล่าสุด Wongnai เปิดให้เข้าถึงข้อมูลร้านอาหารกว่า 2.6 แสนร้านในระบบแล้ว ดังนั้นลองมาทำความรู้จักบริการนี้กัน
Lifestyle Platform อันดับ 1 ของไทย
เมื่อนึกถึง Wongnai หลายคนอาจนึกแพลตฟอร์มกลางที่มีผู้ใช้ในระบบมารีวิวร้านอาหารให้คนอื่นได้อ่าน แต่ปัจจุบันไม่ใช่แค่นั้นแล้ว เพราะ Wongnai ขยายธุรกิจไปที่ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Lifestyle การใช้ชีวิตของคนไทย เช่นความสวยความงาม, การท่องเที่ยว, การทำอาหาร และอื่นๆ
การขยายธุรกิจออกไปนี้เองทำให้ยอด Active User ของ Wongnai มีมากกว่า 10 ล้านคน/เดือน พร้อมข้อมูลร้านอาหารกว่า 2.6 แสนแห่ง มี Pageview มากกว่า 2 แสนครั้ง/เดือน รวมถึงจำนวนรีวิว และรูปภาพในระบบที่มีกว่า 16 ล้านชิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Wongnai แข็งแกร่งเรื่องฐานข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร และ Lifestyle อื่นๆ
จุดนี้เอง Wongnai จึงเดินหน้าธุรกิจ Wongnai Data Services หรือการเปิดให้บริการเข้าถึงข้อมูล Wongnai โดยเริ่มต้นในฝั่งร้านอาหารก่อน ซึ่งการเข้าถึงนั้นทำได้ตั้งแต่การมองเห็นข้อมูลต่างๆ, การเชื่อมต่อ API กับ Wongnai รวมถึงการปรับรูปแบบข้อมูลให้เหมาะสมกับตัวธุรกิจให้มากที่สุด
ต่อยอดธุรกิจให้กับทุกอุตสาหกรรม
“มีหลากหลายอุตสาหกรรมเข้ามาใช้งาน Wongnai Data Services แล้ว เช่น AIS ที่เชื่อมต่อกับเราเพื่อยกระดับการค้นหาร้านอาหารให้กับผู้ใช้งาน, Unilever ที่เอาข้อมูลร้านอาหารไปต่อยอดในการขายสินค้า และ MG ที่เอาข้อมูลร้านอาหารไปใช้กับระบบนำทางในรถยนต์” ธนพล เนรัญชร ผู้อำนวยการเทคโนโลยีของ Wongnai กล่าว
นอกจากนี้ยังมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ LINE MAN เชื่อมต่อข้อมูลกับ Wongnai ด้วย ดังนั้นไม่ใช่แค่ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านอาหารที่ใช้งานข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ธุรกิจที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วิเคระาห์ต่อยอดธุรกิจได้เช่นกัน
ตัวอย่างที่ดีคือการวิเคราะห์ความหนาแน่นของร้านอาหาร และจำนวนผู้ใช้งาน Wongnai ทั่วประเทศ เพื่อรับรู้ว่าบริเวณไหนมีผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือจำนวนร้านอาหารในพื้นที่นั้นๆ เป็นอย่างไร เพื่อง่ายต่อการสร้างกลยุทธ์การขาย รวมถึงการเรียนรู้คู่แข่งในพื้นที่เหล่านั้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ใช้เวลานานกว่าจะได้ข้อมูลที่แม่นยำ
ทั้งนี้การจะได้มาถึงข้อมูลต่างๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น Wongnai ต้องพัฒนาเทคโนโลยีภายในอย่างต่อเนื่องตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เช่นการพัฒนาระบบ Location-base Search ให้ดีขึ้น ตอนนี้มีข้อมูลถึงแต่ละชั้นของห้างสรรพสินค้ามีร้านอาหารอะไร, การนำข้อมูลภาพมาประยุกต์ใช้กับการระบุว่าร้านอาหารนั้นอยู่ที่ใด และแบ่งประเภทร้านอาหารเป็นต้น
ขณะเดียวกันการค้นหาที่แม่นยำขึ้น ทั้งด้วยผลลัพธ์จากการค้นหาด้วยตัวอักษร รวมถึงการแสดงผลลัพธ์ออกมาด้วยภาพที่สวย และเข้ากับเนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการที่สุด ก็ทำให้รักษา และเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน ในทางกลับกันก็ทำให้ Wongnai เพิ่มโอกาสในการมีข้อมูลคุณภาพมากขึ้นเช่นเดียวกัน
“เมื่อมี Data ในมือมากขึ้น ตัวภาคธุรกิจก็สามารถวิเคราะห์กลยุทธ์ และการทำตลาดได้ดีกว่าเดิม และตัว Data นี้เองทำให้ธุรกิจ Fail Fast, Fail Cheap หรือถึงจะผิดพลาด ก็สามารถลุกขึ้นได้เร็ว และไม่ได้สูญเสียงบประมาณมากมาย ซึ่งกลยุทธ์นี้ค่อนข้างเหมาะสมในการทำธุรกิจในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” ธนพล กล่าว
สรุป
เมื่อ Data สำคัญขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการมีข้อมูลของตัวเอง และนำมาวิเคราะห์อย่างถูกต้องก็คงดีไม่น้อย แต่หากมีข้อมูลที่แม่นยำจากแหล่งภายนอกควบคู่ไปด้วย การวิเคราะห์เพื่อนำไปต่อยอดในเรื่องต่างๆ ก็คงทำได้ดีขึ้นอีก ดังนั้นการเร่งพัฒนาการเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นเรื่องจำเป็นในองค์กรธุรกิจปัจจุบัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา