จำนวนคนรวย “ชาวจีน” แซงหน้า “ชาวอเมริกัน” เป็นครั้งแรก

รายงานล่าสุดจาก Credit Suisse (CS) ชี้ให้เห็นว่าความมั่งคั่งในประเทศจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้น และมีสัดส่วนชาวจีนถึง 100 ล้านคน ใน 10% ของคนที่ร่ำรวยที่สุดของประชากรโลกแซงหน้าชาวอเมริกันที่ 99 ล้านคน

โดยรายงานระบุว่า การจะเข้าข่าย 10% ของคนที่ร่ำรวยที่สุดของประชากรโลกจะต้องมีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 109,400 เหรียญสหรัฐหรือราวๆ 3,300,000 บาท และหากจะเข้าขั้นเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากที่สุด 1% แรกของประชากรโลก จะต้องมีทรัพย์สินมากกว่า 936,400 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 28,000,000 บาท

คนจีน
ภาพจาก Shutterstock

ถึงจำนวนจะแพ้ แต่คนอเมริกันยังมั่งคั่งกว่า

แม้ตัวเลขคนที่ร่ำรวยที่สุดจะแพ้จีน แต่ความมั่งคั่งโดยเฉลี่ยของชาวอเมริกันยังมีมากกว่าจีน โดยชาวอเมริกันมีความมั่งคั่งเฉลี่ยที่ 4.32 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13 ล้านบาท) ส่วนชาวจีนมีความมั่งคั่งเฉลี่ยที่ 58,544 ดอลลาร์ (ราว 1.77 ล้านบาท)

นอกจากนี้หากนับจำนวนมหาเศรษฐีพันล้าน ชาวสหรัฐอเมริกาก็มีมากถึง 18.6 ล้านคนมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ส่วนชาวจีนมี 4.4 ล้านคน แซงชาวญี่ปุ่นที่มี 3 ล้านคน และสหราชอาณาจักรที่ลดลงเหลือ 2.46 ล้านคน เพราะค่าเงินปอนด์ที่อ่อนตัวลง

ทั้งนี้รายงานของ CS ระบุว่า จำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านคน เป็นทั้งหมด 48.6 ล้านคน รวมสินทรัพย์ที่ครอบครองมีมูลค่าถึง 158 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 4,783 ล้านล้านบาท) คิดเป็น 44% ของความมั่งคั่งทั้งหมด ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบความมั่งคั่งทั่วโลกยังพบว่ามันกระจุกตัวอยู่เพียงแค่คนไม่กี่กลุ่ม

เช่น 50% ของคนทั้งหมดครอบครองความมั่งคั่งเพียง 1% ของทั้งหมด และหากมองที่กลุ่มคนร่ำรวย 10% ของโลก จะครอบครองความมั่งคั่งถึง 82% ที่สำคัญกลุ่มคนร่ำรวยที่สุด 1% ของโลก ครอบครองความมั่งคั่งเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และจากรายงานฉบับนี้ยังคาดการณ์ว่า ปี 2567 จะมีมหาเศรษฐีทั่วโลกเป็น 63 ล้านคน

อ้างอิง // CNN, REUTERS

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา