บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นพัฒนาบ้านแนวราบเป็นหลัก ได้แถลงผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ และภาพรวม 6 เดือนแรกของปีนี้โดยประมาณ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง หากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว นำทีมโดย กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ และยังเปิดตัว ณพน เจนธรรมนุกูล ผู้จัดการทั่วไปสายงานพัฒนาธุรกิจ ดูแลการขยายธุรกิจ สัมมากร เพลส หรือ Community Mall มีรายละเอียดดังนี้
- ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ 4 เดือนแรกของปี 59 มีการเติบโตสูง มียอดโอนกว่า 1.9 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในเดือน เม.ย. ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่มีการโอนทรัพย์สินน้อยที่สุด กลายเป็นมีการโอนสูงสุด เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มีผลกระตุ้นการตัดสินใจ
- อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลอดทั้งปี ตลาดอสังหาฯ น่าจะอยู่ในสถานการณ์ทรงตัว ครึ่งปีหลังไม่มีปัจจัยบวก แม้จะมีเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นเยอะมาก และเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวออกไป โดย พ.ค. และ มิ.ย. น่าจะหดตัวเยอะมาก แต่เชื่อว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ จากผู้ประกอบการในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลมาจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระตุ้นให้เกิดการนำที่ดินออกมาใช้งาน
- สำหรับไตรมาสแรก สัมมากร มีรายได้ 333 ล้านบาท เติบโตขึ้น 106% ได้รับผลเต็มๆ จากมาตรการของภาครัฐ และไตรมาสแรก อัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้าน (Reject Rate) ลดลงต่ำกว่า 10% จากเดิมอยู่ที่ 18% เมื่อปลายปีที่แล้ว แสดงว่า สถานะการเงินของผู้ซื้อดีขึ้น
- เมื่อพิจารณาตัวเลข Pre-Sale โครงการของสัมมากร ในช่วง 6 เดือนแรก บ้านแนวราบทำได้ดี แต่คอนโดมิเนียม โครงการเอสเก้า คอนโดฯ ต่ำกว่าเป้า 20% แต่เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้น และน่าจะขายได้หมดในปีนี้ ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ สัมมากร มีโครงการพร้อมโอนมูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท ดูจากรายได้ปีที่ผ่านมา 1,500 ล้านบาท ถ้าสามารถโอนได้หมด ก็จะมีการเติบโตกว่า 30% แต่อย่างน้อยเชื่อว่าจะเติบโต 10-15% แน่นอน
- นอกจากนี้ สัมมากร ยังมีรายได้พิเศษเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ รับโอนมามูลค่า 79 ล้านบาท ถือเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ แห่งที่ 4 พื้นที่รวม 9,000 ตร.ม. ซึ่งมีทั้งโรงพยาบาล และธนาคารให้บริการอยู่ในพื้นที่ จึงเตรียมงบประมาณ 30 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงพื้นที่ที่เหลือใหม่ให้มีทั้งร้านค้าและสำนักงานให้เช่า เมื่อรวมกับคอมมูนิตี้มอลล์ Pure Place 3 แห่งเดิม มีรายได้จากค่าเช่า 150 ล้านบาท น่าจะเห็นรายได้เพิ่มเป็น 200 ล้านบาทต่อปี
- ณพน เจนธรรมนุกูล ผู้จัดการทั่วไปสายงานพัฒนาธุรกิจ เป็นผู้บริหารใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ดูแล ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์นี้ และมีแผนที่จะ Rebrand ให้เป็นชื่อ สัมมากร เพลส ทั้งหมด เพื่อสร้างการรับรู้ และเป็นการบริหารความเสี่ยงให้บริษัทมีรายได้ประจำเข้ามา เผื่อกรณีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์หดหรือชะลอตัว
- ณพน บอกว่า สัมมากร มีภาพลักษณ์ของความเป็นผู้ใหญ่ แต่โครงการต่างๆ มีวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่อยู่เยอะ ดังนั้นเป้าหมายคือ จะสร้างธุรกิจเพื่อรับกับคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น เชื่อว่าตลาดค้าปลีกยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
- สัมมากร ยังได้เปิดจอง 3 โครงการใหม่ คือ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวรังสิต คลอง7 มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท ถือเป็นโครงการที่จะสร้างรายได้ใน 1-3 ปีจากนี้ แต่ไม่รวมโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดในอนาคต
บทสรุป
ตลาดอสังหาริมทรัพย์แม้จะคึกคักขึ้นมาในเดือน เม.ย. แต่เป็นเพราะมาตรการของภาครัฐทำให้มีการเร่งโอนสินทรัพย์กัน แต่ภาพรวมแล้วค่อนข้างทรงตัว ดังนั้นสัมมากรจึงพยายามบริหารความเสี่ยงด้วยการขยายธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ให้เกิดขึ้น และยังได้ผู้บริหารใหม่ไฟแรง ณพน เจนธรรมนุกูล มาช่วยในการสร้างแบรนด์ใหม่ แม้สัมมากร จะบอกว่า โครงสร้างรายได้จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ 200 ล้านบาทต่อปี สามารถช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา