อนุญาโตตุลาการองค์กรการค้าโลก (WTO) ตัดสินอนุญาตให้สหรัฐฯเดินหน้าแผนกำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากยุโรปมูลค่า 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือราวๆ 230,000 บาท เริ่มต้น 18 ตุลาคมนี้
นี่เป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดในข้อพิพาทกว่า 15 ปี ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการอุดหนุนเครื่องบินแอร์บัสคู่แข่งเครื่องบินโบอิ้งอย่างผิดกฎหมาย
โดยทางการสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า อัตราภาษีสินค้าจะถูกกำหนดไว้ที่ 10% สำหรับเครื่องบิน และ 25% สำหรับสินค้าอื่นๆ เช่น ชีส วิสกี้ น้ำมันมะกอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจาก ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปนและสหราชอาณาจักร
จุดเริ่มต้นของข้อพิพาท
ในปี 2547 สหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลกโดยอ้างว่าสหภาพยุโรปได้ให้สินเชื่อราคาถูกสำหรับแอร์บัส (คู่แข่งโบอิ้ง) ซึ่งเป็นการอุดหนุนจากรัฐที่ผิดกฎหมาย
โดยสหรัฐฯ พยายามจะกำหนดอัตราภาษีที่ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่องค์การการค้าโลกได้ปรับลดลงเหลือ 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการกำหนดวงเงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ข้อพิพาทระหว่างแอร์บัสและโบอิ้ง ทำให้เกิดการกำหนดอัตราภาษีที่มากขึ้น เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการค้าโลกที่กำลังชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางข้อพิพาทมากมายที่เกิดขึ้น
ในวันพุธ (2 ต.ค.) Guillaume Faury หัวหน้าผู้บริหารแอร์บัส เตือนว่า ข้อพิพาทดังกล่าวจะส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงในสหรัฐฯด้วย เนื่องจาก 40% ของการจัดซื้อจัดจ้างของแอร์บัสมาจากสหรัฐฯกว่า 275,000 ตำแหน่งใน 40 รัฐ
Faury หวังว่า สหรัฐฯและสหภาพยุโรปจะสามารถตกลงเจรจาต่อรองสำเร็จก่อนที่จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการบินรวมถึงความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจโลก
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและสหภาพยุโรปมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2561 สหภาพยุโรปส่งออกสินค้ามูลค่า 445 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังสหรัฐฯ ในขณะที่การส่งออกของสหรัฐฯไปยังสหภาพยุโรปมีมูลค่า 318 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตามในวันอังคาร (1 ต.ค.) องค์การการค้าโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกในปี 2562 เป็น 1.2% จาก 2.6%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา