ธนาคารกลางสหรัฐประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 7 สัปดาห์
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ทำให้ล่าสุดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอยู่ในช่วง 1.75% ถึง 2.00% เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 7 สัปดาห์ นอกจากนี้ในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งนี้นั้นมติการประชุมถือว่าเสียงแตกโดยมีมติ 7 ต่อ 3 โดยคณะกรรมการอีก 3 คนมองว่า Fed ควรที่จะคงดอกเบี้ยด้วยซ้ำ
ขณะที่มุมมองของ Fed มองว่าเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ยังต่ำกว่าเป้าของ Fed ที่ 2% ทำให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้สาเหตุอื่นๆ เป็นเพราะการลงทุนต่างๆ ของภาคธุรกิจรวมไปถึงภาคการส่งออกของสหรัฐที่เติบโตน้อยลง
เจอโรม พาเวล ประธานของธนาคารกลางสหรัฐ ได้ส่งสัญญาณว่าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินครั้งถัดไปอาจไม่ได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ยกเว้นในกรณีที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ทำให้ตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้จนไปถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ประธานของธนาคารกลางสหรัฐ ยังได้กล่าวว่าจะไม่นำนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบเหมือนกับนโยบายในธนาคารกลางยุโรปมาใช้ เนื่องจากมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงการซื้อสินทรัพย์ผ่านนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ และยังได้กล่าวเสริมว่าการนำนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะนำมาใช้แน่นอน
อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ทราบหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ก็ยังออกมากล่าวตำหนิ เจอโรม พาเวล และธนาคารกลางสหรัฐว่าทำให้ผิดหวังอีกครั้ง ไม่มีสัญชาติญาณ ไม่มีวิสัยทัศน์ รวมถึงทั้งการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐที่ส่งออกไปยังตลาดนั้นย่ำแย่ ซึ่งทรัมป์พยายามที่จะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
Jay Powell and the Federal Reserve Fail Again. No “guts,” no sense, no vision! A terrible communicator!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) September 18, 2019
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา