WarnerMedia บริษัทสื่อในเครือ AT&T (หลังจาก AT&T ซื้อกิจการ Time Warner เมื่อปี 2018) ประกาศเซ็นสัญญากับผู้กำกับชื่อดัง J.J. Abrams เป็นเวลานาน 5 ปี (2019-2024) เพื่อให้ J.J. Abrams และทีมงานบริษัท Bad Robot ของเขาสร้างทีวีซีรีส์ ภาพยนตร์ เกม และสื่อดิจิทัลให้กับ Warner
J.J. Abrams ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้กำกับแห่งยุคคนหนึ่ง เขาสร้างชื่อขึ้นมาจากทีวีซีรีส์หลายเรื่อง เช่น Felicity, Lost, Fringe รวมถึงมีผลงานเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังทั้ง Mission Impossible III, Star Trek ภาครีบูต และ Star Wars ยุคดิสนีย์ (ภาค VII และ IX)
Warner ไม่เปิดเผยตัวเลขว่าจ่ายเงินให้ J.J. Abrams เท่าไร แต่ก็มีรายงานจากแวดวงฮอลลีวู้ดว่าตัวเลขอยู่ราว 250 ล้านดอลลาร์ (7,700 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้กลุ่ม Warner เคยเซ็นสัญญาลักษณะนี้กับ Bad Robot มาตั้งแต่ปี 2006 และต่ออายุมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2012 กับ 2015 แต่สัญญาครอบคลุมเฉพาะผลงานทางทีวีซีรีส์เท่านั้น ส่วนสัญญาฉบับใหม่ครอบคลุมคอนเทนต์หลายรูปแบบทั้งซีรีส์ หนังโรง เกม และสื่ออื่นๆ บนแพลตฟอร์มทุกประเภท ทั้งเคเบิลทีวีแบบดั้งเดิม ออนไลน์สตรีมมิ่ง และฟรีทีวีปกติ
WarnerMedia เป็นเจ้าของบริการสตรีมมิ่ง HBO Max ที่เพิ่งเปิดตัวไป หลายฝ่ายมองว่าปัจจุบัน บริการสตรีมมิ่งกำลังร้อนแรงจากการแข่งขันของทั้ง Netflix, Disney+ รวมถึงล่าสุดคือ Apple TV+ ที่เพิ่งประกาศราคาในงานแถลงข่าว iPhone 11 ส่งผลให้ Warner ในฐานะ “ขาใหญ่” อีกรายของวงการภาพยนตร์ ต้องเร่งเซ็นสัญญากับผู้กำกับชื่อดังเข้าสังกัด เพื่อเตรียมกระสุนคอนเทนต์ไว้รับมือกับการแข่งขันที่น่าจะดุเดือดนั่นเอง
การชิงตัวผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์ชื่อดังไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการ เพราะ Netflix ก็ทุ่มทุนมหาศาลจ้างผู้กำกับดังๆ มาทำซีรีส์ให้มาโดยตลอด และเว็บไซต์ Hollywood Reporter ก็รายงานข่าวว่า แอปเปิลเองก็เสนอสัญญามูลค่ามหาศาล (ตัวเลขระบุว่าน่าจะอยู่ราว 500 ล้านดอลลาร์) ให้ J.J. Abrams เช่นกัน
แต่สุดท้ายเขาไม่เลือกแอปเปิล เพราะเงื่อนไขของสัญญากำหนดให้ต้องทำคอนเทนต์ให้แพลตฟอร์ม Apple TV+ เพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่ง Abrams ไม่ต้องการ ในขณะที่สัญญาของ Warner ยืดหยุ่นกว่า และครอบคลุมถึงการทำหนังฉายโรงภาพยนตร์ ซึ่งแอปเปิลไม่มีให้ด้วย
ที่มา – WarnerMedia, Hollywood Reporter
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา