ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน หรือ Carpooling กำลังจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทยซะที เพราะตอนนี้ Grab ยักษ์ใหญ่ในบริการแพลตฟอร์มขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำ GrabHitch หรือระบบเชื่อมต่อผู้ขับรถส่วนตัว กับผู้ที่สนใจเดินทางไปด้วยกัน มาให้บริการในกรุงเทพ หลังจากเริ่มให้บริการที่สิงคโปร์เป็นที่แรก
แก้ปัญหารถติด คืองานของเรา
วีร์ จารุนันท์ศิริ กรรมการฝ่ายธุรกิจและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ Grab ให้บริการในประเทศไทยเข้าปีที่ 4 แล้ว และจากการเติบโตทั้งยอดผู้ใช้งาน และผู้ขับในระบบ ทำให้ไทยเป็นอีกประเทศที่ Grab ให้ความสำคัญ เพราะต้องการยกระดับระบบขนส่งมวลชนของที่นี่ หลังจากไทย และกรุงเทพเป็นเมืองที่มีรถติดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ดังนั้นการนำรถส่วนบุคคล ที่ส่วนใหญ่ก็นั่งไปเต็มความจุมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็น่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
และจากปัจจัยดังกล่าว Grab จึงนำบริการใหม่เข้ามาในชื่อ GrabHitch เพื่อสร้าง Social Carpooling ให้เกิดขึ้นจริงในไทย ผ่านการจับคู่ระหว่างผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนตัว กับผู้ที่สนใจร่วมทางไปด้วยกัน ผ่านการคิดอัตราค่าบริการตายตัวที่ 50 บาท และทางผู้ขับจะได้เงินตัวนี้ทั้งหมด Grab ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ยังส่งโปรโมชั่นมากระตุ้นทั้งฝั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร คือให้ผู้ขับขี่ที่รับงานจาก GrabHitch จะได้ค่าตอบแทน 100 บาททันที จากเดิมที่ได้ครั้งละ 50 บาท ส่วนผู้โดยสาร สามารถใส่โค้ด GHFREE ก็ใช้งาน GrabHitch ได้ฟรี
กังวลเหรอ Grab ตีกรอบความปลอดภัยไว้ให้แล้ว
“ใครๆ ก็สมัคร GrabHitch ได้ ไม่เหมือนกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวแล้วอยาก GrabCar ที่ต้องดาวน์โหลด Application อีกตัวแยกออกมา เพราะ GrabHitch จะสมัครบน Application ผู้โดยสาร หรือ Grab ได้ทันที แต่การสมัครนั้น ผู้ขับต้องส่งเอกสารคือ ใบอนุญาตขับขี่ และรุ่นของรถ ผ่านวิธีถ่ายภาพ และตัวระบบจะประมวลผลว่าเอกสารเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้อง ก็สามารถรับงานได้ทันที ดังนั้นผู้โดยสารไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะ Grab มีเอกสารตามตัวผู้ขับอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตามถ้าต้องการรับงานผ่าน GrabHitch จะต้องแจ้งล่วงหน้า 15 นาที ถึง 15 วัน เพื่อกำหนดเส้นทางที่ชัดเจน เช่นจากบ้านย่านรามคำแหง เข้าไปทำงานย่านสาทร เพื่อให้ผู้โดยสารที่สนใจสามารถเลือกที่จะเดินทางร่วมกันได้ แต่ถึงจะไม่กำหนดเส้นทาง ก็สามารถเลือกรับงานได้ทันที่ผ่านหน้าแรกที่แสดงความต้องการของผู้โดยสารว่าต้องการให้ไปรับ และส่งที่ใด โดยการชำระเงินนั้นสามารถทำได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิต ส่วนจำนวนผู้โดยสารจะขึ้นอยู่กับขนาดของรถ
เท่ากับจราจรเมืองกรุงจะดีขึ้นทันตา?
ทั้งนี้ทาง Brand Inside มองว่าเรื่องนี้น่าจะช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนได้ไม่มากก็น้อย เพราะด้วยราคา และคอนเซ็ปของการใช้งานก็ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่ไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่คงไม่เกิดผลในเร็ววันนี้ ผ่านความเชื่อใจที่คงต้องอาศัยระยะเวลาซักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าถ้ายังอัดโปรโมชั่นกระตุ้นไปเรื่อยๆ ก็คงมีผลดีตามมาอย่างแน่นอน สังเกตจากการรุกตลาดของ Grab ที่อัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถขยายฐานผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว และขึ้นเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มขนส่งอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สรุป
โอกาสการสร้างรายได้ก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เพียงแค่คุณเจียดที่บนรถไปให้ผู้โดยสารที่สนใจนั่งกลับบ้าน หรือออกไปทำงานด้วยกัน ดังนั้นก็อย่าปิดโอกาสสำหรับคนมีรถส่วนแต่ แต่ฝั่งผู้โดยสารก็สามารถเลือกวิธีนี้เพื่อเดินทางสะดวกขึ้นได้เช่นกัน เชื่อว่าจากนี้ไม่นานคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Uber ก็คงส่งบริการ Carpooling ออกมาเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา