นโยบาย Digital Economy หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ที่รัฐบาลไทยยังคับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องก็เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ การที่ประเทศไทยจะเข้าสู่รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่เรื่องดิจิทัล หรือ Digital Transformation (DX) ก็คงไปได้เร็วขึ้น แต่จะไปในรูปแบบไหนบ้าง บริษัทวิจัย IDC จะมาฉายภาพให้ดูว่าปี 560 จะเกิดอะไรขึ้น
Smart Industry, City, Citizen ต้องมาแน่นอน
ไมเคิล อาราเนตา ผู้จัดการประจำประเทศไทย IDC เล่าให้ฟังว่า การเดินหน้านโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล มีส่วนให้ไทยก้าวข้ามขีดจำกัดในการขับเคลื่อนประเทศในรูปแบบเดิม เพราะการนำเทคโนโลยี รวมถึงกระบวนความคิดใหม่ ทำให้ทุกอย่างเดินไปอย่างเป็นระบบ ผ่าน Smart Industry, City และ Citizen เช่นการทำแพลตฟอร์มเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ในรูปแบบ Startup, การปรับรูปแบบอุตสาหกรรมการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการเดินหน้าสู่ประเทศอุตสาหกรรมยุคใหม่เช่นกัน
“จากอุตสาหกรรมหนักแบบเดิม ไทยก็สามารถเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ ผ่านการนำเทคโนโลยีไปยกระดับ ซึ่งพิสูจน์จากหลากหลายประเทศแล้วว่ามันดีกว่าเดิม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการวางโครงสร้างพื้นฐาน, การดูแลสิ่งแวดล้อม และการดูแลประชาชนในประเทศ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น การวางรูปแบบการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด โดยเฉพาะกับเรื่องพัฒนาคน เนื่องจากเมื่อมีบุคลากรที่มีความรู้ โอกาสการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์เดิมๆ ก็มีสูง เช่นการสร้าง Smart Farming”
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมเกิดการปรับตัว
ขณะเดียวกันการเดินหน้าสู่ Thailand 4.0 ฝั่งผู้บริโภคจะเห็นการปรับตัวของผู้ให้บริการโทรคมนาคม จากเดิมที่เป็นตัวเชื่อมต่อการสื่อสารให้กับผู้บริโภค ก็จะกลายเป็นผู้เชื่อมต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ทั้งผู้บริโภค, ภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐ เนื่องจากความต้องการการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานข้อมูลสูงขึ้น และยังต้องเข้าถึงทุกเวลา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ผลิตเทคโนโลยีจะทำได้เพียงคนเดียว ดังนั้นผู้ให้บริการโทรคมนาคมก็จะ Transform ไปสู่ผู้ให้บริการ Digital และสร้างโอกาสทางธุรกิจเกี่ยวกับ IoT, Cloud, Network และ Analytics
“การเกิด Triple Play หรือ Quadruple Play ของบริษัทโทรคมนาคมจะเห็นได้เป็นปกติ เพราะผู้บริโภค รวมถึงระดับองค์กรไม่ได้ต้องการใช้งานแค่บริการเดียวอีกต่อไป ดังนั้นมันต้องทำได้ทุกอย่าง และถามว่าการทำแบบนี้จะช่วยอะไรผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้ ง่ายๆ ก็เช่น ลดอัตราการไหลออกของการใช้งาน เพราะมีทุกบริการให้เลือก, ยกระดับการแข่งขันจากราคา สู่การแข่งแบบเทคโนโลยี ที่สำคัญยังสามารถใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย และอาจเห็นการ M&A ระหว่างบริษัทที่ให้บริการเพียงไม่กี่อย่างก็ได้”
ฝันร้ายธนาคาร เพราะ Fin Tech กำลังเข้ามา
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือ Fin Tech หรือกลุ่มที่นำเทคโนโลยีมาปฏิวัติวงการการเงิน เพราะภายในปี 2561 ธุรกิจธนาคารดั้งเดิมจะถูก Fin Tech เข้ามาทำลาย หรือ Disrupt ธุรกิจถึง 12% โดยเฉพาะบริการเกี่ยวกับการจับจ่ายของผู้บริโภค และการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเทคโนโลยี Blockchain ส่วนเรื่องที่จะตามมาภายหลังก็คือการเข้าไปทำลายธุรกิจประกันแบบดั้งเดิม รวมถึงการใช้ AI ที่คำนวณเรื่องต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ มาแนะนำในการลงทุน หรือตัดสินใจทำธุรกรรมได้อีกด้วย แต่ทางธนาคารก็สามารถร่วมมือกับ Fin Tech เพื่อพัฒนาธุรกิจออกไปด้วยกันได้อีกด้วย ถือเป็นทางออกที่ดีกว่าปล่อยให้ธุรกิจหายไปเฉยๆ
สรุป
การเข้าสู่ Thailand 4.0 หากเกิดขึ้นจริง และมีการวางแผนนโยบายได้อย่างถี่ถ้วน ก็น่าจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศไทยได้เต็มรูปแบบ และคุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะตามมาอีกด้วย แต่นั่นก็ต้องรอดูว่า รัฐบาลไทยจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ได้ดีแค่ไหน หลังจาก Digital Economy ต้องชะลอไปพักหนึ่งหลังจากเปลี่ยนชุดคณะรัฐมนตรี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา