EXIM BANK มองว่าภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะเติบโตที่ 0.2% โดยมีความหวังกับกลุ่มสินค้าส่งออกของไทย เช่น กลุ่มสินค้าดาวรุ่งที่ยังมียอดส่งออกเติบโต หรือสินค้าที่ได้รับผลดีจากสงครามการค้า
ธนาคารการเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตเพียงแค่ 0.2% เป็นผลจากความยืดเยื้อของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ทำให้สินค้าไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตและพึ่งพาตลาดจีนสูงได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก ฯลฯ ซึ่งในครึ่งปีแรกนั้นตัวเลขการส่งออกไทยที่ -2.9%
- ส่งออกไทยวิกฤติ ยอดเดือนมิถุนายนติดลบ 2.1% สินค้าส่งไปจีนหดตัวหนักที่สุดเกือบ 15%
- SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.1% กรณีเลวร้ายสุดเหลือ 2.7% ผลจากส่งออกลดลง
สำหรับตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยรวมหดตัวที่ -2.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่หากหักทองคำ ตัวเลขการส่งออกไทยจะอยู่ที่ -8.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยผลกระทบสำคัญคือการส่งออกไปที่ประเทศจีน ขณะที่การส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านของไทยก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาก็ทำให้ภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบไปด้วย
อย่างไรก็ดี EXIM BANK มองว่าภาคการส่งออกของไทยครึ่งปีหลังจะมีความหวังอยู่ที่กลุ่มสินค้าเหล่านี้ เช่น
- กลุ่มสินค้าดาวรุ่ง ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ยังส่งออกได้เติบโตสูง เช่น อาหารแปรรูป ผักและผลไม้ เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส เครื่องสำอางค์ รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ ที่ได้อานิสสงค์จากการท่องเที่ยวของไทย เช่น สมุนไพร ของใช้ในครัวเรือน
- กลุ่มสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากสงครามการค้า สามารถทดแทนสินค้าจีนได้ เช่น ยางล้อ ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
- การส่งออกภาคบริการ โดย EXIM BANK มองว่าภาคบริการของไทยจะสามารถประคับประคองภาคการส่งออกได้ ไม่ใช่แค่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ก่อสร้าง ธุรกิจนันทนาการ และโลจิสติกส์
ทางด้านของ พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้กล่าวว่า “ภาคการส่งออกของไทยอาจหดตัวลง แต่ประเทศไทยยังมีภูมิต้านทานที่ดีกว่าคู่แข่งหลายๆ ประเทศ เพราะอัตลักษณ์ของความเป็นไทยมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้สินค้าไทยยังต้องการอีกมากในหลายประเทศ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้ประกอบการไทยต้องทันข่าวสาร ปรับปรุงสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคให้ได้”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา