รัฐบาลสหรัฐเตรียมที่จะออกใบอนุญาตให้บริษัทในสหรัฐสามารถขายสินค้าให้กับ Huawei ได้ โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องของความมั่นคง หลังจากที่ผู้นำสหรัฐได้กล่าวในการประชุม G20 ว่าให้บริษัทเอกชนขายสินค้าได้
รัฐบาลสหรัฐเตรียมที่จะออกใบอนุญาตให้เอกชนของสหรัฐสามารถที่จะซื้อขายผลิตภัณฑ์กับ Huawei ได้ โดยไม่กระทบกับเรื่องของความมั่นคงที่รัฐบาลสหรัฐกังวลอยู่ หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวกับสื่อในช่วงการประชุม G20 ว่าบริษัทเอกชนของสหรัฐสามารถซื้อขายสินค้ากับ Huawei ได้
- มาทำความเข้าใจเรื่องกรณี กูเกิล แบนการทำธุรกิจกับ หัวเว่ย และเรื่องราวหลังจากนี้ที่จะเกิดขึ้น
- สหรัฐออกคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยความมั่นคง “หัวเว่ย” ชี้สหรัฐจะล้าหลังทันที
โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐจะออกใบอนุญาตให้บริษัทต่างๆ สามารถซื้อขายสินค้ากับยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนได้ แต่ต้องสอดคล้องกับเรื่องของความมั่นคงของสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐได้ยืดเวลาให้ Huawei สามารถซื้อสินค้ากับบริษัทในสหรัฐได้จนถึงวันที่ 19 สิงหาคมนี้ และคาดว่าน่าจะมีการต่อเวลาออกไป ในเงื่อนไขที่ว่าสินค้าเป็นสินค้าปัจจุบันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ใหม่
Huawei ในมุมมองของรัฐบาลสหรัฐนั้นถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากกรณีของการที่ไม่เคารพเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในอดีตหลายกรณี และล่าสุดรวมไปถึงกรณีที่บริษัทละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐในการขายสินค้าให้กับประเทศอิหร่าน ซึ่งทำให้ CFO และลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei อย่าง เหมิง หวันโจว โดนควบคุมตัวที่ประเทศแคนาดา
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในช่วงถามตอบในการประชุม G20 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในเรื่องของ Huawei ว่า เขาให้บริษัทสหรัฐสามารถขายสินค้าให้กับ Huawei ได้ด้วย ประธานาธิบดีสหรัฐยังได้กล่าวว่า เขาชอบที่จะให้บริษัทสหรัฐขายของให้กับลูกค้ารายอื่นๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไม่ง่ายก็ตาม
สำหรับในช่วงที่ผ่านมา Huawei อยู่ในบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ทำให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ต้องงดซื้อขายสินค้ากับ Huawei ไม่ว่าจะเป็น Qualcomm หรือแม้แต่ Google ทำให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ในสหรัฐเรียกร้องให้ทรัมป์ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากไม่สามารถขายสินค้าให้ได้ นอกจากนี้ในระยะยาวถ้าหาก Huawei พัฒนาไม่ว่าจะเป็นชิป หรือระบบปฏิบัติการเองแล้วจะกลายเป็นว่าบริษัทสหรัฐเดือดร้อนเอง
ที่มา – CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา