กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี คาด GDP ปีนี้โตแค่ 3.3% แต่สำหรับมุมมองสถาบันการเงินต่างประเทศมองว่าปีนี้น่าจะมีการลดดอกเบี้ย
คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. แถลงผลประชุม กนง.วันนี้ มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% โดยประเมินว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกสินค้าและบริการ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้กับที่ประเมินไว้ ภาวะทางการเงินยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่ต้องติดตามต่อเนื่อง เช่น เรื่องการหาผลตอบแทนที่สูงกว่า หรือ search for yield หรือมาตรการอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังต้องติดตามเรื่องการก่อหนี้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์
แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ที่ กนง. มองไว้
- เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและบริการเป็นสำคัญ
- กนง. จับตามองเรื่องของสภาวะการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลัก รวมไปถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
- สำหรับในประเทศ กนง. จับตามองเรื่องการดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่และการใช้จ่ายภาครัฐ
จากมุมมองดังกล่าวทำให้ กนง. ปรับคาดการณ์ GDP ของไทยลงมาเหลือ 3.3% จากที่คาดไว้ตอนแรกที่ 3.8% โดยมองจากการเติบโตของภาคการส่งออกของไทยปีนี้โต 0% ไม่ลดลงไปมากกว่านี้ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยที่ 39.9 ล้านคน
มุมมองจากสถาบันการเงินต่างประเทศ ING มีมุมมองในเรื่องนี้ว่า ไม่แปลกใจถ้าหาก กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ซึ่งต่างจากมุมมองของ ING ที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงมาเหลือ 1.5% นอกจากนี้ยังคาดว่า GDP ไทยปีนี้อาจต่ำที่สุดในรอบ 4 ปีด้วย ส่วน ABN AMRO ออกบทวิเคราะห์ล่าสุดได้ปรับเป้า GDP ไทยล่าสุดลงมาเหลือเพียงแค่ 3% เท่านั้น
ขณะที่ HSBC มองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยในช่วงการประชุมในเดือนกันยายน 1 ครั้ง เหลือ 1.50% และมีความเป็นไปได้ในปีนี้อีก 1 ครั้ง แต่ก็ยังมองว่า กนง. ยังมีความกังวลในเสถียรภาพทางการเงินอยู่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา